คนร้ายทุบกระจกรถช่างภาพไทยพีบีเอส ได้ทรัพย์สินไปกว่า 50,000 บาท

อาชญากรรม
1 ธ.ค. 54
01:37
14
Logo Thai PBS
คนร้ายทุบกระจกรถช่างภาพไทยพีบีเอส ได้ทรัพย์สินไปกว่า 50,000 บาท

คนร้ายก่อเหตุทุบกระจกรถกระบะช่างภาพไทยพีบีเอสริมถนนวิภาวดีรังสิต ขณะจอดรถลงไปซื้อของเบื้องต้นคนร้ายได้ทรัพย์สิน และ เงินสดไปรวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท

กระเป๋าเป้ กระเป๋าสตางค์ และ เอกสาร ถูกพบทิ้งไว้ในซอยลาดพร้าว 26 หลังคนร้ายก่อเหตุทุบกระจกรถกระบะโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ฎฟ-497 กรุงเทพมหานคร ของนายเจนวิทย์ แก้วเนิน ช่างภาพไทยพีบีเอส ก่อนรื้อค้นทรัพย์สินมีค่าของผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสที่นั่งมาด้วยและของตัวเองไปรวมทั้งหมด 4 ใบ ก่อนนำกระเป๋าเป้ 1 ใน 4 ใบ ที่หายไปมาวางทิ้งไว้บริเวณ แยก 2/2 ลาดพร้าว 26 จนมีพลเมืองดีพบเห็นและแจ้งตำรวจสายตรวจนครบาลสุทธิสาร

 
เบื้องต้นทั้งช่างภาพ และ ผู้สื่อข่าว ไทยพีบีเอส ให้ปากคำกับตำรวจว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 ครึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาจอดรถริมถนนวิภาวดีรังสิตระหว่างซอยวิภาวดีรังสิต 18 และซอยวิภาวดีรังสิต 16 เพื่อลงไปรับประทานอาหารกับผู้สื่อข่าว และ ใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที แต่เมื่อเดินกลับมาที่รถพบว่า กระจกรถด้านหน้าซ้ายถูกทุบ และ กระเป๋าเป้ของผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสที่วางซ่อนไว้ข้างเบาะหน้าหายไป ส่วนกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อผ้ารวมถึงกระเป๋าโน๊ตบุ๊ค และ กระเป๋าสะพายกันน้ำที่วางไว้เบาะหลังทั้งหมด 3 ใบหายไปด้วยเช่นกัน
 
ระหว่างที่ติดตามเรื่องช่วงเวลาประมาณ 23.30น.มีโทรศัพท์จากพลเมืองดีโทรเข้ามาที่เบอร์ของช่างภาพไทยพีบีเอสว่า พบกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อผ้า และ กระเป๋ากันน้ำวางทิ้งไว้พงหญ้า ในซอยรัชดา 14 โดยทราบเบอร์โทรศัพท์จากเอกสารที่พบในกระเป๋า เมื่อไปตรวจสอบ พลเมืองดีเล่าว่า กระเป๋าถูกรื้อค้นทรัพย์สินกระจัดกระจาย
 
เหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา มีคนร้ายนำกระเป๋าโน๊ตบุ๊คมาทิ้งไว้ที่จุดนี้จึงได้ติดต่อไปยังเจ้าของและพบว่า ถูกทุบกระจกรถเช่นกัน โดยเชื่อว่าทั้งสองกรณีที่เกิดขึ้นเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน เพราะจุดที่นำมาทิ้งเป็นซอยลึกเข้ามาจากถนนใหญ่ และ บริเวณจุดที่พบเป็นซอยย่อยที่มีหมู่บ้าน และซอยตัน
 
ขณะที่ตำรวจ ระบุว่า กรณีกระเป๋าใบเเรกพลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งเข้ามาว่าพบกระเป๋า ช่วงเวลาประมาณเกือบ 21.30 น.วางไว้ ซึ่งระยะเวลาไม่ห่างจากที่ผู้เสียหาย รับประทานอาหารเสร็จและเดินมาที่รถ ซึ่งเบื้องต้นได้นำทรัพย์สินในกระเป๋าที่พบบางชิ้นไปตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงเพื่อนำไปเทียบเคียงกับประวัติกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง ที่เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน รวมถึงประวัติผู้ติดยาเสพติด และระบุว่า ช่วงน้ำลดมีเหตุลักวิ่ง ชิงปล้น มากขึ้น การป้องกันในขณะนี้ได้ขอความร่วมมือกับตำรวจบ้าน ร่วมกับตำรวจสายตรวจแบ่งพื้นที่ออกตรวจตามจุดต่าง ๆ เพื่อป้องปรามเหตุ 
 
ขณะที่การติดตามคดีวันนี้ ( 1 ธ.ค.) ชุดสืบสวนและทีมข่าวจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุ และที่พบกระเป๋าแต่ละจุดว่ามีหรือไม่ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง