ภูมิปัญญาจากท้องทะเล : สังเกตเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ปรับตัวใช้ชีวิตได้กับฤดูกาล

5 ธ.ค. 54
15:52
66
Logo Thai PBS
ภูมิปัญญาจากท้องทะเล : สังเกตเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ปรับตัวใช้ชีวิตได้กับฤดูกาล

ทะเล และคลื่นลม เป็นสิ่งที่คุ้นเคยสำหรับชาวประมงที่ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ อย่างเช่นของเครือข่ายประมงพื้นบ้านอ่าวท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอาศัยการสังเกตคลื่นลมทะเล ผสมผสานกับความรู้การพยากรณ์อากาศสมัยใหม่ ทำให้เขาสามารถเข้าถึงการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ และปรับตัวใช้ชีวิตให้เข้ากับฤดูกาล

บังมุ  เจริญ โต๊ะอิแต  เครือข่ายประมงพื้นบ้านอ่าวท่าศาลา จังหวัด นครศรีธรรมราช   แจ้งข่าวผ่านวิทยุสื่อสารไปยังเพื่อนชาวประมงชายฝั่งและชาวสวนยางที่อยู่บนเขา ให้ทราบสภาพอากาศที่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงสองสามวันนี้ โดยนำความรู้ภูมิปัญญาของประมงพื้นบ้านมาใช้ประกอบการพยากรณ์

            
“ ถ้าดูสถานการณ์ในวันนี้ที่มาเทียบกับที่กรมอุตุนิยมวิทยาบอกว่า วันที่2- 6ธ.ค.ให้เตรียมเฝ้าระวัง ก็คืออย่างน้อยชาวประมงที่นี่จะได้แจ้งเตือนเพื่อนที่อยู่ในภูเขาว่าตอนนี้มันยังปกติอยู่ในทะเล คือเราดูตรงพื้นนี่มันเงียบ มันยังไม่ผิดปกติแต่ว่าในการสังเกตการณ์ตรงนี้ ชาวบ้านก็พยายามแจ้งเตือนว่า คือสังเกตว่าหลังจากช่วงนี้ไปมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยเราดูจากก้อนเมฆที่มันอยู่ห่างๆเป็นสีขาวพวกนี้สีขาวนี่เป็นก้อนเมฆธรรมดา ปกติ ไม่มีเมฆฝนอะไร แต่ถึงแม้จะมีก้อนเมฆดำๆ แต่ถ้ามันเป็นกลุ่มย่อยกลุ่มเล็กก็ไม่บ่งบอกถึงมรสุมว่าจะเข้ามาส่วนของในเลตอนนี้ก็ยังเป็นปกติอยู่ คลื่นก็ยังปกติประมาณซักครึ่งเมตร  มีเมฆไม่มากเท่าไหร่ เมฆสีขาวไม่เกาะกลุ่ม ถ้ายังไงช่วยรายงานสถานการณ์ที่อยู่ริมคลองมาด้วยนะ”
  
            
 นอกจากการสังเกตลักษณะของก้อนเมฆแล้ว บังมุยังอ่านสภาพอากาศจากการสังเกตคลื่น ลม เสียงฟ้าร้อง และฝูงปลาในทะเล พร้อมกับกระจายข่าวสารและแจ้งเตือนให้กับเพื่อนสมาชิกให้ทราบผ่านสื่อวิทยุ

“ในการสังเกตคลื่น ถ้าว่ามรสุมจะเข้าคลื่นจะลูกใหญ่ๆ มันเหมือนกับเราขี่รถลงควน ลงภูเขา มันลึกๆใหญ่ๆ  ในส่วนตรงนั้น ปลาบางทีวันนี้เราหาปลาได้ แต่ถ้าก่อนลมมรสุมจะเข้า ปลาจะหายไปหมด เพราะว่าปลามันจะหนี นี่คือการสังเกตที่บ่งบอกว่าจะมาเตือนในสองวันนี้  แล้วก็ผมก็พยายามกระจายข้อมูลข่าวสารให้เพื่อนสมาชิกได้รู้ สื่อผ่านโดยใช้วิทยุมดดำ  พยายามแจ้งเตือนกับเพื่อนที่อยู่บนภูเขาที่เขามีอาชีพเกษตรให้เตรียมความพร้อมว่ามีเมฆฝนมาแล้ว คนที่ตัดยางให้เก็บเครื่องมืออุปกรณ์ ถ้าว่ามาหนักๆ ทางนู้นจะได้เตรียมความพร้อม  แต่ว่าเรามาสังเกต ไม่ได้เสียหายทางชีวิต แต่ทรัพย์สินเราป้องกันไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราก็เหลือชีวิต อนาคตของเราจะได้สร้างกันใหม่”บังมุกล่าว

             
ชาวประมงพื้นบ้านอย่างบังมุที่อยู่กับท้องทะเลเกือบทั้งชีวิต  ได้นำความรู้เรื่องคลื่นลมในชีวิตประจำวันมาผสมผสานกับความรู้สมัยใหม่  ซึ่งเป็นแนวทางในการทำมาหากินของชาวประมงพื้นบ้าน  ที่ทำให้พวกเขายังคงดำรงวิถีชีวิตที่พอดีกับธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละฤดูกาลได้

          
 “ในส่วนของการประกอบอาชีพในวิถีชีวิตพวกนี้ ซึ่งชาวประมงพื้นบ้านต้องอยู่กับธรรมชาติ เวลาที่เราต้องออกหาปลา ถ้าเราพบคลื่นใหญ่ๆ เราสามารถที่จะเตรียมความพร้อมได้ เพราะเราอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่บรรพบุรุษของเรา บรรพบุรุษเคยสอนเรื่องราวที่ในมหาลัยต่างๆไม่เคยให้กับเรา แต่ในวิถีชีวิตพวกนี้ สามารถที่จะรับรู้เรื่องได้จากบรรพบุรุษและถ่ายทอดต่อไปให้ชนรุ่นหลังได้เรียนรู้”

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง