ศาลไม่ให้ประกันตัว
แกนนำนปช. เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ หลังถูกแจ้งข้อหาร่วมกันก่อการร้าย และ หลบหนีไปประเทศกัมพูชานานกว่า 1 ปี โดยพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวไปยังอัยการทันที เนื่องจากได้นำสำนวนคดีส่งฟ้องแล้ว ขณะที่นายอริสมันต์ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ในข้อหาก่อการร้าย กรณีนำแนวร่วม นปช. ชุมนุมตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม 2553 ซึ่งพนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบสวนประมาณ 30 นาที ก่อนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 1 ข้อ คือ ก่อความเดือดร้อนรำคาญ และนำตัวส่งให้พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 ทันที
โดยชั้นพนักงานอัยการได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ แต่นายอริสมันต์ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมทั้งระบุว่า จะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีแจ้งข้อกล่าวหาเกินกว่าเหตุ
อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เปิดเผยว่า อัยการก็มีคำสั่งฟ้องในข้อหาก่อการร้ายเพียงคดีเดียว เนื่องจากเป็นคดีหลัก ส่วนคดีอื่น ต้องรอให้พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษส่งเรื่องมาอีกครั้ง
ล่าสุดศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวชั่วคราวนาย อริสมันต์ เนื่องจากมีพฤติกรรมหลบหนี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เตรียมควบคุมตัว นาย อริสมันต์ ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้นายอริสมันต์ พงษ์ เข้ามอบตัวต่อศาลจังหวัดพัทยาในข้อหากระทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จากกรณีก่อความวุ่นวายในการประชุมอาเซียน ที่โรงแรมรอยัล คลิฟบีช รีสอร์ท พัทยา ปี 2552 จนต้องยุติการประชุม ซึ่งศาลได้พิจารณาแล้วให้ประกันตัว เนื่องจากเห็นว่า จำเลยเข้ามอบตัวเอง พร้อมกับหลักประกันเป็นเงินสด 2 ล้านบาท โดยศาลได้มีคำสั่งห้ามนายอริสมันต์ กระทำการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการมั่วสุม หรือให้ประชาชนล่วงละเมิดต่อกฏหมายแผ่นดิน ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และจะต้องรายงานตัวต่อศาลเดือนละ 1 ครั้ง รวมถึงห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
ทั้งนี้นายอริสมันต์มีคดีที่อยุ่ในกระบวนการยุติธรรมรวม 5 คดี คือ คดีบุกอาคารรัฐสภา ,คดีบุกสถานีดาวเทียมไทยคม, คดีปล้นปืนจากทหารปี 2553 ,คดีจี้บังคับตำรวจที่โรงแรมเอสซีปาร์ค ,และ ก่อการร้าย
