น้ำท่วมฉับพลันในหลายจังหวัดภาคใต้ยังวิกฤต
ชาวตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ช่วยกันขนย้ายทรัพย์สินออกจากบ้านไปเก็บไว้ที่ปลอดภัย หลังน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 700 ครัวเรือนเดือดร้อน ขณะที่บางครอบครัวไม่สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ทัน เพราะน้ำที่ไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านเร็วกว่าที่ชาวบ้านคาดการณ์ไว้ โดยบางจุดสูงเกือบ 2 เมตร
ส่วนจังหวัดพัทลุงมีพื้นที่ประสบอุทกภัยครั้งนี้ 5 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน อำเภอบางแก้ว และอำเภอกงหรา ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 2,500 ครัวเรือน ขณะที่จังหวัดนราธิวาสหลังเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ล่าสุดทางจังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ทั้งหมดเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว
โดยอำเภอที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดขณะนี้คือ เภอรือเสาะ เนื่องจากมีน้ำป่าบนเทือกเขาหลังหมู่บ้านกาเปาะ ตำบลวาสุกรี ไหลทะลักพัดบ้านเรือนประชาชน 5 หลังหายไปกับกระแสน้ำ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย เช่นเดียวกับที่จังหวัดยะลา ฝนที่ตกลงอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนใน ตำบลสะเตงนอก ตั้งแต่หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 10 หมู่ 9 และหมู่ที่ 12 โดยเฉพาะ หมู่ที่ 9 มีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทรัพย์สินในบ้านเสียหายจำนวนมาก ถนนในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
ส่วนที่ตำบลระกำ อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ฝนที่ตกหนัก ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมในหลายหมู่บ้านสูง 30-50 เซนติเมตร บ้านเรือนกว่า 400 หลัง โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 6 แห่ง มัสยิด 3 แห่ง และ สถานที่ราชการ 6 แห่ง ถูกน้ำท่วม นอกจากนี้น้ำที่ไหลจากภูเขาที่เชี่ยวกรากได้พัดเอาดินไหลลงบนถนนสายมายอ-บ้านปาลัส ในบางจุดยังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ขณะที่อำเภอและชาวบ้านช่วยกันตักดินและขุดร่องให้น้ำไหลผ่านลงสู่ที่ต่ำ เพื่อเปิดทางให้รถสัญจรได้สะดวกขึ้น
ส่วน 8 ชุมชนซึ่งเป็นจุดเสี่ยงในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา คือ ชุมชนจันทรวิโรจน์ ชุมชนจันทร์ประทีป ชุมชนรัตนวิบูลย์ ชุมชนเทศาพัฒนา ชุมชนริมคลองร .1 ชุมชนวัดหาดใหญ่ในชุมชนพ่อพรหม และ ชุมชนซอย 41 เพชรเกษม ที่มีการแจ้งเตือนก่อนหน้านี้ว่าจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ล่าสุดระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชาวบ้านต้องเร่งอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย