นายกฯ ย้ำโอนหนี้กองทุนฯ สร้างความเชื่อมั่นกับต่างประเทศ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังจากการเดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยย้ำถึงความจำเป็นในการโอนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูเเละพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 1.14 ล้านล้านบาท ให้ธนาคารเเห่งประเทศไทย (ธปท.) รับผิดชอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศ และยืนยันการรักษาวินัยทางการเงินการคลังต่อการออกพระราชกำหนดกู้เงินเพื่อการฟื้นฟูประเทศ
ส่วนกรณีปัญหาคูปองช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยส่วนลดการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า 2,000 บาทนั้น นายกรัฐมนตรีขอโทษประชาชนที่ไม่สามารถทำได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการมีจำนวนน้อยกว่าผู้ต้องการซื้อ โดยได้ให้กระทรวงพลังงานดูแลอย่างใกล้ชิด และยืนยันยังมีการจัดโครงการนี้ต่อเนื่องในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ขณะที่การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช คณะของนายกรัฐมนตรีได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของกองทัพบก จากสนามบินท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชไปยังองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กรุงชิง อำเภอนบพิตำ จากนั้นขึ้นรถตู้ เพื่อเดินทางตรวจสภาพสะพานข้ามคลองกลาย ที่เชื่อมระหว่างหมู่ 5 และหมู่ 6 ตำบลกรุงชิง ที่ถูกน้ำป่าพัดสะพานแบริ่งขาด ราษฎรใช้สัญจรผ่านไปมาไม่ได้ โดยทางทหารช่าง กองทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ศูนย์สร้างสะพานที่ 4 ได้เร่งซ่อมสะพานแบริ่ง และทำทางเบี่ยงชั่วคราวข้ามคลองกลายเสร็จแล้ว
นายกรัฐมนตรีได้สั่งกำชับให้ทางอำเภอและจังหวัดรีบทำเรื่องเสนอไปยังรัฐบาล เพื่อเร่งรีบอนุมัติงบประมาณสร้างสะพานถาวรเร่งด่วนต่อไป นอกจากนี้ยังลงพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านปากลง หมู่ 6 ตำบลกรุงชิง เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชน และเข้านมัสการพระครูภัทรธรรมาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเขาเหล็ก อำเภอนบพิตำ ที่ต้อนรับและอวยพรให้นายกรัฐมนตรีมีความสุขและมีความมั่นคงในรัฐบาล ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อประชาชน
โอกาสนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวปราศรัยกับประชาชนที่มาต้อนรับที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านปากลง ว่า ได้เฝ้าติดตามอุทกภัยที่เกิดขึ้นใน 9 จังหวัดภาคใต้มาตลอด โดยได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กองทัพบก และกองทัพภาคที่ 4 ส่งกำลังทหารและเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ลงมาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้อย่างเร่งด่วน
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ขณะนี้พบว่า สถานการณ์ภาพรวมคลี่คลายมากแล้ว กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระบุว่า ยังมีพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ถูกน้ำท่วม ได้แก่ จังหวัดยะลา จังหวัดพัทลุง จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดชุมพร