คอ.นธ.ลั่นเดินหน้าชงนายกฯตั้ง 34 กรรมการแก้ รธน.
ศ.อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) แถลงยืนยันที่จะเสนอแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ ปี 2550 ด้วยการตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 34 คน ต่อนายกรัฐมนตรีวันนี้ (10 ม.ค.) และตามขั้นตอนแนวทางก็จะถูกนำเสนอต่อ คณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอเป็นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ซึ่งเป็นร่างของรัฐบาลที่จะส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา และหากสภาฯ รับหลักการในวาระแรก ก็จะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งในวาระ 2 หรือแปรญัตติ ก็สามารถเชิญทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมด้วยการเป็นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมกันนั้นก็สามารถพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติม ที่เสนอโดยภาคประชาชนหรือส.ส.ไปในคราวเดียวกันได้ ซึ่งเหตุผลสำคัญก็จะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและประหยัดงบประมาณ
ส่วนข้อเสนอของ คอ.นธ. ที่สอดคล้องกับความเห็นของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ศ.อุกฤษ มงคนาวิน ปฏิเสธการหารือต่อกัน เพื่อเอื้อประโยชน์ทางการเมือง ไม่ว่าจะต่ออดีตนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ขณะที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธาน ได้เชิญผู้บัญชาการทหารบกและประธานสภาหอการค้า เข้าร่วมหารือแนวทางการสร้างความปรองดอง แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ส่งพล.ท.อักษรา เกิดผล ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายยุทธการ เข้าร่วมหารือแทน
โดยยืนยันว่าฝ่ายกองทัพไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง และ มีหน้าที่ในการปกป้องประชาชนและสถาบัน ตลอดจนพร้อมที่จะสนับสนุนแนวนโยบายของรัฐบาล และกล่าวย้ำว่า ไม่ต้องการให้แต่ละฝ่ายนำประชาชนมาเป็นคู่ขัดแย้งจนเป็นเหตุของการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย และมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
ส่วนนายพงษ์ ศักดิ์อัสสกุล ประธานสภาหอการค้าไทย มองว่าปัญหาความขัดแย้งมาจากการทุจริตคอรัปชั่นทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมดังนั้น การสร้างความปรองดอง จึงควรนำเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเป็นบทเรียน พร้อมระบุว่า รัฐบาลต้องเร่งฟื้นฟูประเทศ สร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจกลับคืนมาให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการทหารบกติดภารกิจราชการ จึงมอบหมายให้นายทหารระดับสูงไปแทน โดยปฏิเสธนัยอื่นใดแอบแฝงที่ไม่เดินทางไปหารือด้วยตัวเอง