ม.ธรรมศาสตร์ ร้องนิติราษฎร์ ยุติการแสดงความเห็นมาตรา 112 หวั่นเลยเถิด
สถาบันพระปกเกล้าออกแถลงการณ์ ให้กลุ่มนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์หยุดเคลื่อนไหว หลังจากนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ ออกมาเคลื่อนไหวเสนอให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 โดยร้องให้สถาบันต้นสังกัดควบคุมพฤติกรรม และให้สังคมร่วมติดตามตรวจสอบใกล้ชิด พร้อมยกระดับตอบโต้จากเบาไปหาหนักหากยังไม่ยอมหยุดความเคลื่อนไหวในครั้งนี้
นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ นายกสมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า ระบุตามแถลงการณ์ของสถาบันฯว่า การที่นักวิชาการกลุ่มนี้ อ้างความเป็นนักวิชาการและเสนอต่อสาธารณะในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งนำไปสู่การละเมิด พาดพิงวิพากษ์วิจารณ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันของชาติให้เกิดความเสียหาย และ กระทบกระเทือนต่อจิตใจประชาชนทั่วทุกหมู่เหล่า และจะขยายวงไปสู่ความขัดแย้งและแตกแยกของผู้คนในสังคม
ขณะที่องค์กรด้านสิทธิเสรีภาพ 5 สมาคม ได้แก่ มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา มูลนิธิผสานวัฒนธรรม คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และโครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อมได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงใยสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และสิทธิในการมีส่วนร่วมในการเสนอแก้ไขกฎหมายตามกรอบรัฐธรรมนูญโดยระบุว่า การแสดงออกของกลุ่มนิติราษฎร์ เป็นการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างตามครรลองประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามหน้าที่ใน การปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด และยุติการคุกคามสิทธิเสรีภาพดังกล่าวของประชาชนโดยทันที
แถลงการณ์ยังได้ระบุถึง ความไม่เห็นด้วยกับการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่ต้องการให้มีการเคลื่อนไหวกรณีนี้ภายในสถาบัน โดยเห็นว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการเป็นสถาบันศึกษาของรัฐ และประเพณีปฏิบัติอันดีงามของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมเสรีภาพทางวิชาการ เสรีภาพความคิดและการแสดงออก
ขณะที่ นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ระบุว่า คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกอบด้วย อธิการบดี รองอธิการบดี คณบดีทุกคณะ ร่วมประชุมกัน และมีความเห็นตรงกันว่า การแสดงความเห็นในเรื่องมาตรา 112 ที่เกิดขึ้น เลยเถิดจากเรื่องของการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญหรือ การแสดงความเห็นทางวิชาการไปสู่ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งมีแนวโน้ม จะทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทย ไม่ใช่ความขัดแย้งทางความคิดเท่านั้น
อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวอีกว่า ที่น่าเป็นห่วง คือ การจัดการอภิปรายทั้งหลาย ผู้จัดอาจจะคุมสถานการณ์ไม่ได้แม้แต่กลุ่มนิติราษฎร์ก็รับผิดชอบไม่ได้ และอาจกลายเป็นชนวนของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยมาชุมนุมคัดค้าน จนอาจนำไปสู่การปะทะกัน แม้ส่วนตัวจะไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการแก้มาตรา 112 ของนิติราษฎร์ แต่ว่าที่ผ่านมาก็ได้ให้โอกาส และเสรีภาพทางวิชาการแก่นิติราษฎร์มาตลอด แต่หลังจากนี้ขอให้ยุติการเคลื่อนไหว กรณีการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112
ส่วนกระแสโจมตีพรรคเพื่อไทยว่าให้การสนับสนุนแนวคิดนี้ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ซึ่งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ทั้ง นายจตุพร พรหมพันธ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยืนยันชัดเจนว่าพรรคไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนิติราษฎร์ หรือแนวทางที่จะแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งสอดคล้องกับที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยที่ได้ให้สมาชิกพรรคไปทำความเข้าใจกับมวลชน เพื่อยืนยันในแถลงการณ์ของพรรคที่จะไม่แก้ไขกฏหมายมาตรา 112