ชาวบ้านปุโละปุโยไม่กล้าออกจากพื้นที่

ภูมิภาค
3 ก.พ. 55
07:11
8
Logo Thai PBS
ชาวบ้านปุโละปุโยไม่กล้าออกจากพื้นที่

ผู้ว่าฯ ปัตตานีเผย อาวุธปืนที่ทหารพรานอ้างว่าพบในรถยนต์ชาวบ้านที่ถูกยิงเสียชีวิต ขณะทหารพรานติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุโจมตีฐานทหาร อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขณะที่เหตุที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งในตำบลปุโละปุโยไม่กล้าเดินทางออกจากพื้นที่

ชาวบ้านน้ำดำ ตำบลปุโละปุโย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ยังคงวิพากษ์วิจารณ์เหตุชาวบ้านที่เดินทางไปละหมาดงานศพต่างหมู่บ้าน ถูกยิงเสียชีวิต 4 ศพ และบาดเจ็บ 4 คน ระหว่างทหารพราน 4302 บ้านน้ำดำ ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุโจมตีฐานทหาร โดยชาวบ้านส่วนหนึ่งยังกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ไม่กล้าเดินทางออกจากบ้านไปละหมาดที่มัสยิด

ส่วนความคืบหน้าของคดีนี้ ซึ่งหลักฐานสำคัญอยู่ที่อาวุธปืน เอช.เค.และปืนขนาด 11 มิลลิเมตร ที่ทหารอ้างว่าพบในกระบะของชาวบ้าน โดยนายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ระบุว่า ได้ประสานกับทางตำรวจภูธรจังหวัดเพื่อให้เร่งตรวจสอบหาความชัดเจน ทราบว่า ขณะนี้ปืนถูกส่งไปตรวจสอบที่กองวิทยาการจังหวัดยะลา ซึ่งจะทราบผลในเร็ววันนี้

ส่วนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีนี้ กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนพยานหลักฐาน ซึ่งมีพยานที่เป็นชาวบ้านเห็นเหตุการณ์หลายปาก แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากพยานยังกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรรณทัต รมว.กลาโหม เปิดเผยถึงการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันนี้ (3 ก.พ.) จะหารือถึงเหตุผู้เสียชีวิตจากกรณีทหารพรานยิงใส่รถกระบะที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งจะมีการเสนอเพิ่มเงินเยียวยาให้กับผู้เสียชีวิตจากคนละ 100,000 บาท เป็นคนละ 500,000 บาท และหากสอบสวนออกมาพบว่าทางทหารเป็นผู้กระทำผิด และเข้าข่ายต้องเยียวยา อาจจะพิจารณาเพิ่มเงินเยียวยาให้เท่ากับหลักเกณฑ์ที่จ่ายให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุชุมนุมทางการเมือง

ส่วนพื้นที่จังหวัดปัตตานียังเกิดเหตุไม่สงบขึ้น โดยเกิดเหตุรถยนต์ที่มีนายอับดุลคอเด ลีเฮง อดีตกำนันในพื้นที่เป็นคนขับ ถูกกราดยิงด้วยอาวุธสงคราม ทำให้นายอับดุลคอเดบาดเจ็บ ส่วนภรรยาที่นั่งมาด้วยเสียชีวิต ขณะที่ลูกชายวัย 8 ขวบปลอดภัย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนหาสาเหตุว่าจะเกี่ยวข้องเหตุความไม่สงบหรือไม่

ส่วนที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) เกิดการปะทะระหว่างทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 37 และแนวร่วมกลุ่มอาร์เคเค หลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพื้นที่ป่าบนเทือกเขากุนุงจองนอง หมู่บ้านไอร์แตแต หมู่ 5 ตำบลกาหลง อำเภอศรีสาคร หลังสืบทราบว่าเป็นที่ซ่อนตัวเพื่อเตรียมก่อเหตุ แต่ฝ่ายตรงข้ามไหวตัวใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนเกิดการปะทะกันกว่า 10 นาที ทำให้แนวร่วมถูกยิงเสียชีวิต 1 ศพ ส่วนอีก 2 คน หลบหนีไปได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง