3 หน่วยงานจับมือตั้งเป้าลดผู้ติดเชื้อเอดส์เป็นศูนย์

สังคม
14 ก.พ. 55
17:31
14
Logo Thai PBS
3 หน่วยงานจับมือตั้งเป้าลดผู้ติดเชื้อเอดส์เป็นศูนย์

กรุงเทพมหานคร ร่วมกับกรมควบคุมโรค และสภากาชาดไทย จัดโครงการรณรงค์รวมใจต้านภัยเอดส์ หวังปลุกกระแสให้ประชาชนและเยาวชน ตระหนักถึงปัญหาและมีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหาเอดส์อย่างจริงจัง ภายใต้แนวคิด Heart Connection Stop AIDS หรือ เชื่อมดวงใจหยุดภัยเอดส์ โดยกำหนดยุทธศาสตร์มุ่งสู่เป้าหมายที่เป็นศูนย์ (Getting to Zero)

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ แลนด์มาร์คพลาซ่า บางกะปิ  นายแพทย์โกวิทย์ ยงวานิชจิต รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการจัดโครงการรณรงค์รวมใจต้านภัยเอดส์ โดยถือโอกาสจัดในวันแห่งความรักครั้งนี้ ว่าต้องการสร้างกระแสให้เยาวชน มีความรู้ความเข้าใจในการป้องกันและตระหนักถึงโรคเอดส์ว่า  เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้แต่ต้องเริ่มจากตัวเอง รวมถึงต้องรู้วิธีป้องกันตนเอง ระลึกเสมอว่าโรคนี้ยังมีอยู่ ถึงแม้จะสามารถรักษาได้แต่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด อย่างไรก็ตามสามารถรักษาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้โดยการกินยาตามที่แพทย์แนะนำ  

 
สำหรับสถานการณ์เอดส์ในกรุงเทพมหานคร จากการคาดการประมาณผู้ที่ติดเชื้อและผู้ป่วยที่มีอยู่ในปัจจุบันจนถึงสิ้นปี 2554 พบว่ามีผู้ติดเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ 55,525 ราย 1 ใน 4 ของประเทศ (ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 80 อายุต่ำกว่า 40 ปี ซึ่งเป็นวัยที่กำลังทำงานและเป็นผู้ดูแลครอบครัว) ในแต่ละปีมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ประมาณปีละ 2,400-2,500 ราย พบว่ากว่าร้อยละ 50  เป็นกลุ่มชายรักชาย และร้อยละ 14 เป็นผู้หญิงที่ติดเชื้อจากสามีหรือคู่รักเนื่องจากเชื่อใจกัน ซึ่งถ้าดูตามช่วงอายุจะพบว่าผู้ที่ติดเชื้อรายใหม่มากกว่าร้อยละ 50 มีอายุต่ำกว่า 25 ปี และมากกว่าร้อยละ 20 มีอายุต่ำกว่า 20 ปี  

ขณะที่ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์  รองอธิบดีกรมควบคุมโรค  กล่าวถึงแนวทางการป้องกันผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นว่า พ่อแม่ผู้ปกครองต้องให้ความรัก พร้อมให้คำปรึกษาพูดคุยกับลูกได้ และต้องรู้จักเพื่อนของลูกด้วยเพราะบางครั้งหากลูกไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่ เพื่อนจะเป็นคนที่ลูกไปปรึกษาดังนั้นพ่อแม่ก็ควรจะรู้จักเพื่อนของลูกเพื่อเป็นการป้องกัน  เพราะสิ่งยั่วยุในสื่อปัจจุบันมีมากที่อาจเชื้อชวนให้มีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น เยาวชนควรจะมีทักษะชีวิตรู้จักปฏิเสธ หัดพูดคำว่าไม่โดยเฉพาะผู้หญิง หากเลื่ยงไม่ได้ต้องใช้ถุงยางอนามัย

 
ด้าน นายแพทย์ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย แนะนำว่าทุกคนต้องไปตรวจเลือดสักครั้งหนึ่งในชีวิต โดยคนไทยทุกคนมีสิทธิ์เข้ารับการตรวจเลือดตามสถานพยาบาลของรัฐฟรี แม้ไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยงเพื่อเป็นการป้องกัน เพราะพบว่าในคลินิกนิรนามนั้น หลายคนมาตรวจเมื่อมีอาการติดเชื้อนานแล้วซึ่งอาจสายเกินไป แต่ถ้าได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ จะทำให้คนๆนั้นไม่เสียชีวิตจากโรคเอดส์ ถ้าตรวจเร็วก็รักษาเร็ว สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ พร้อมกันนี้สภาการชาดไทยรณรงค์ลดการตีตราเลือกปฏิบัติกับผู้ที่ติดเชื้อเอดส์ 
 
สำหรับยุทธศาตร์มุ่งสู่เป้าหมายที่เป็นศูนย์ ( Getting to Zero)นั้น เป็นยุทธศาสตร์เรื่องเอดส์ที่โครงการเอดส์สหประชาชาติและองค์การอนามัยโลก ริเริ่มดำเนินการในปี 2555 -2559 โดยที่ Zero หรือ ศูนย์ ประกอบด้วย 3 ศูนย์ ศูนย์แรกคือการที่ไม่มีผู้ที่ติดเชื้อรายใหม่ ศูนย์ที่สอง คือการที่ไม่มีผู้ที่เสียชีวิตจากเอดส์ ศูนย์ที่สามคือ ไม่มีการแบ่งแยกตีตราหรือแบ่งแยกผู้ติดเชื้ออีกต่อไป 
 
ขณะที่ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค  กล่าวว่าความเป็นจริงแล้วกว่าจะเดินทางไปถึงจุดมุ่งหมายที่เป็นศูนย์ได้ต้องใช้เวลากว่า 10 ปี ซึ่งแผน 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2555-2559 ในการป้องกันและลดผู้ติดเชื้อหน้าใหม่ให้ลดลงจาก 2 ใน 3 ให้เหลือ 1 ใน 3 จากปัจจุบันที่คาดการณ์ว่าจะมีผู้ติดเชื้อหน้าใหม่ปีละ 1 หมื่นราย  ให้ลดลงจาก 6,000 ราย เหลือ 3,000 ราย  โดยจะให้เหลือ 1,000 ให้ได้ภายใน 5 ปี 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง