นักวิชาการมองมาตรการยกถนนป้องกันน้ำท่วมยังไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันน้ำท่วมในจังหวัดภาคกลางอย่างหนึ่ง คือ การยกถนนสูง และทำคันกั้นน้ำ ซึ่งตอนนี้แทบทุกจังหวัดในภาคกลางได้รับอนุมัติงบประมาณเพื่อป้องกันท้องถิ่นอย่างเต็มที่ แต่เมื่อทีมข่าวไทยพีบีเอส และนักวิชาการได้ไปสำรวจการดำเนินการตามแผนนี้ในหลายจังหวัดก็พบว่ามาตรการนี้ยังอยู่ในลักษณะต่างคนต่างทำ และไม่มีการวิเคราะห์ผลที่จะเกิดขึ้น

ปลายปีที่ผ่านมา บ้านหลังนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวไทยพีบีเอส และนักวิชาการจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงมาสำรวจพื้นที่อีกครั้ง เจ้าของบ้าน กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกในชีวิตถูกน้ำท่วมหนักเช่นนี้ เขาจึงกังวลว่า ถ้าปีนี้รัฐบาลยังไม่เริ่มจัดการน้ำอย่างเป็นรูปธรรมก็อาจไม่ทันเวลา

ริมคลองมหาสวัสดิ์มีคันกั้นน้ำฝั่งกรุงเทพมหานครเพียงด้านเดียว ทำให้จังหวัดนนทบุรี จะเสริมคันดินเลียบคลองมหาสวัสดิ์ และขุดลอกคลองให้น้ำไหลเร็วขึ้น แต่ รศ.สุทธิศักดิ์วิเคราะห์ว่า การเสริมคันกั้นน้ำเลียบคลองมหาสวัสดิ์ ด้วยการขุดดินในคลองขึ้นมาทำคันกั้นน้ำอาจไม่แข็งแรงพอ

กรมทางหลวงจังหวัดนนทบุรีกำลังเร่งทำแนวกันน้ำ หรือแบริเออร์ บนทางหลวงหลายเส้นทางเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าสู่ชุมชน ซึ่งมีทั้งทางหลวงหมายเลข 340 ทางหลวงหมายเลข 345 ที่กยน.เห็นชอบแล้ว ส่วนทางหลวง 346 และทางหลวงหมายเลข 9 กำลังรอการอนุมัติจาก กยน.อยู่ ขณะที่จังหวัดปทุมธานีจะยกถนนสาย 3309 เช่นกัน เช่นเดียวกับแทบทุกจังหวัดในภาคกลาง

จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี และสระบุรี จะยกถนน และวางแนวแบริเออร์ เพื่อป้องกันน้ำ ซึ่งนักวิชาการมองว่าเป็นการป้องกันแบบต่างคนต่างทำ โดยไม่มีการวิเคราะห์ถึงผลกระทบในภาพรวม

ขณะนี้ประชาชนในจังหวัดภาคกลาง เช่น นนทบุรี และปทุมธานี กำลังเรียกร้องให้รัฐบาลทำคันกั้นน้ำและยกถนน เพื่อปกป้องท้องถิ่นแต่จนถึงขณะนี้รัฐบาลและคณะกรรมการ กยน.ยังไม่ได้วิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากแผนกั้นถนน และสร้างคันกั้นน้ำของทุกจังหวัด