ด้วยเหตุผลที่กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญได้เริ่มต้นขึ้นจากกลไกของรัฐสภาแล้วนายโคทม อารียา ผอ.ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า เรียกร้องให้ทุกฝ่ายมองข้างความขัดแย้งและร่วมกันติดตามตรวจสอบ รวมถึงเตรียมพร้อมรวบรวมข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.ที่ปราศจากการถูกครอบงำจากฝ่ายใด เพื่อให้องค์ประกอบในการยกร่างรัฐธรรมนูญเกิดขึ้น และ สิ้นสุดลงโดยการได้มาซึ่ง รัฐธรรมนูญประชาธิปไตย
ขณะที่กลางดึกวานนี้ ( 24 ก.พ.) ประธานรัฐสภาใช้วิธีการขานชื่อและขานคะแนนเพื่อลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ ซึ่งสมาชิกรัฐสภาลงมติรับหลักการในวาระแรกด้วยคะแนนเสียง 399 ต่อ 199เสียง งดออกเสียง 14 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณารายละเอียดของร่างกฎหมาย จำนวน 45 คนภายใน 15 วัน และ เรียกประชุมนัดแรกในวันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์นี้
แต่ก่อนหน้านั้นประธานรัฐสภา ต้องสั่งพักประชุม 10 นาทีด้วยเหตุที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ในสิทธิ์ความเป็น ส.ส.ประท้วงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ที่อภิปรายปิดนอกประเด็นแต่ด้วยท่าทีและวาจาของ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นเหตุให้ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นมากล่าวหาว่า ร.ต.อ.เฉลิม มีอาการเมาสุราทำให้นายสุนัย จุลพงศธร ต้องลุกขึ้นข้อร้องทั้ง 2 ฝ่ายให้หยุดกล่าวหา
ระหว่างปิดประชุมสมาชิกรัฐสภา ร้อยตำรวจเอกเฉลิม ได้เข้ามากล่าวกับ น.ส.รังสิมาว่า "ผมไม่ได้เมาเหล้า แต่เมารัก คุณเข้าใจผิด " หลังจากนั้นกลับมาประชุมอภิปรายกันอีกครั้ง น.ส.รังสิมา เสนอให้ตรวจแอลกอฮอล์ทำให้ นายอนันต์ ศรีพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พยายามประท้วงแม้ว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.หลายคนเข้าห้ามปรามแต่ไม่ยินยอมเป็นเหตุให้ต้องช่วยกันพยุงตัวออกจากห้องประชุม