ชาวทวีวัฒนา ห่วงขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่กระทบชุมชน
นายสุรพงษ์ อัศนีวุฒิกร ประธาน หมู่บ้านปัญจทรัพย์ ไพรเวทโฮม2 กล่าวถึงกรณีการขุดเจาะน้ำมันในเขตทวีวัฒนา ว่า การจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ที่ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ผ่านการพิจารณาของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยระบุว่าประชาชนมากกว่าร้อยละ 50 ให้การยอมรับ ทั้งที่ชาวบ้านส่วนใหญ่คัดค้านมาโดยตลอด จึงตั้งข้อสังเกตถึงความโปร่งใสของการทำ อีไอเอ ครั้งนี้ โดยชาวชุมชนได้ยื่นฟ้องกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติต่อศาลปกครอง เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อให้เอกชนยุติการขุดเจาะสำรวจ ซึ่งศาลได้รับคำร้องในวันที่ 19 ก.พ. ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างรอการนัดไต่สวนของศาล
ส่วนเขตตลิ่งชันซึ่งเป็นพื้นที่ติดกัน นายชวน ชูจันทร์ ประธานชุมชนตลาดน้ำคลองลัดมะยม เปิดเผยว่า ปี 2553 เคยเห็นสายยางสีส้มริมถนน คลอง และเขตชุมชน ที่บริษัทนำมาวางไว้เพื่อวัดแรงสั่นสะเทือนสำรวจปิโตรเลียมเบื้องต้น แต่เห็นว่าไม่ได้กระทบกับวิถีชีวิต หากบริษัทจะทำการขุดเจาะเชื่อว่าต้องมีผลกระทบตามมาอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ โครงการเจาะหลุมสำรวจแหล่งปิโตรเลียม อยู่ริมถนนพุทธมณฑลสาย 2 เขตทวีวัฒนา เป็นสัมปทานเจาะสำรวจปิโตรเลียมแปลงที่ แอล 45/50 ซึ่งเป็น 1 ใน 11 สัมปทาน 13 แปลงที่อนุมัติในสมัยปลายรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่มีนายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ออกให้กับแก่ บริษัท มิตรา เอ็นเนอร์ยี ลิมิเต็ด หรือ เอ็นไอทีอาร์ สัญชาตอังกฤษ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2551 แปลงที่ได้รับสัปทานนี้กินพื้นที่ประมาณ 4,000 ตารางกิโลเมตร คลอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานคร ,นครปฐม, นนทบุรี ,ปทุมธานี, อยุธยา และสุพรรณบุรี โดยที่ผ่านมาได้สำรวจน้ำมันดิบบนพื้นที่ครึ่งหนึ่งไปแล้ว 2,000 ตารางกิโลเมตร แต่ไม่พบอะไร และในวันที่ 6 มี.ค. บริษัทจะเข้าไปจุดเขาะสำรวจน้ำมันดิบในพื้นที่ 2,000 ไร่ ที่เหลืออีกครั้ง โดยขณะนี้ได้กันพื้นที่เอาไว้แล้วเพื่อขุด 1 หลุม ที่ใช้พื้นที่ประมาณ 7 ไร่
ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปขุดเจาะสำรวจ บริษัทมิตรา ได้ว่าจ้างบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นไวรอนเม้นต์ จำกัด หรือ ไออีเอ็ม มาเป็นที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมในการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อยื่นต่อสำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม ตาม พ.ร.บ. สิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัท ไออีเอ็ม ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น ในเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินงาน และข้อสรุปว่า ให้ยุติโครงการดังกล่าว ต่อมาอีก 4 เดือน สำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม กลับอนุมัติรายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และแจ้งให้บริษัทมิตรา ทราบและดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ซึ่งหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมผ่านไป บริษัทมิตรา จึงเข้ามาเร่งดำเนินการสร้างฐานขุดเจาะ และ ติดตั้งอุปกรณ์สำรวจ กันพื้นที่ด้วยแผ่นสังกะสีสูงปิดล้อมพื้นที่โดยรอบ