รถโดยสาร - แท็กซี่ จ่อขึ้นราคาค่าโดยสาร 1 เม.ย.นี้
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นค่ามิเตอร์รถแท็กซี่ หลังศึกษาต้นทุนแล้วว่าพบค่าใช้จ่ายของผู้ขับแท็กซี่สูงขึ้น 20% และมีรายได้ลดลง หลังราคาน้ำมันเอ็นจีวีปรับเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะรู้ผลก่อนวันที่ 16 เมษายนนี้ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 3 ทางเลือกในการปรับค่ามิเตอร์ คือ
1.ปรับขึ้นแบบขั้นบันไดระยะ 50 สต. โดยยังคงค่ามิเตอร์แรกที่ 35 บาท
2. ปรับขึ้นค่ามิเตอร์แรกทันทีเป็น 40 บาท ส่วนค่ามิเตอร์ตามระยะทางยังคงที่เหมือนเดิม
3.ปรับระยะทางแต่ละช่วงให้สั้นลง โดยไม่มีการปรับขึ้นราคา
ซึ่งแนวทางที่เป็นไปได้มากที่สุดคือแนวทางแรก ซึ่งไม่กระทบนโยบายการให้แท็กซี่เป็นฟีดเดอร์ หรือ รถรับส่งจากระบบรถไฟฟ้า ไปสู่บ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ และกระทบค่าใช้จ่ายของผู้โดยสารน้อยที่สุด
ด้าน นางสุจินดา เชิดชัย หรือ เจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หากไม่ได้รับการพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสารจากกระทรวงคมนาคมตามที่ขอในวันที่ 1 เมษายนนี้ จะปรับขึ้นค่าโดยสารเองในอัตรา 6 สตางค์ต่อกิโลเมตร โดยไม่รอผลการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกลาง เพราะผู้ประกอบการไม่สามารถแบกภาระต้นทุนได้อีกต่อไป โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่มีประชาชนเดินทางกลับต่างจังหวัดจำนวนมากและทำให้ผู้ประกอบการขาดทุนหนักทันที พร้อมระบุ การปรับขึ้นค่าโดยสาร แม้จะมีความผิดตามกฎหมาย แต่ยอมที่จะจ่ายค่าปรับ เพราะถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับการถูกรถตู้เถื่อนวิ่งทับเส้นทาง
ขณะที่ ผู้ประกอบการเรือด่วนเจ้าพระยา เปิดเผยว่า เรือด่วนเจ้าพระยา ในเส้นทางส่วนต่อขยาย จากท่าน้ำสาทร ถึงท่าน้ำราษฎร์บูรณะ จะยกเลิกให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.นี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบของราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้น ลิตรละ 32 บาท รวมทั้งจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงเหลือ 600 คนต่อวัน จากเดิม 2,000 คนต่อวัน เนื่องจากประชาชนหันไปใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถเมล์มากขึ้น ซึ่ง การยกเลิกการเดินเรือดังกล่าวสามารถทำได้ เพราะเป็นการขอใบอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ไม่ได้เป็นการทำสัญญาแต่อย่างใด