นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ แถลงชี้แจงกรณีการถูกโยกย้ายไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่าจะยื่นฟ้องทีมที่ปรึกษา นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ฐานหมิ่นประมาทด้วยการให้ข้อมูลเพียงด้านเดียว จนนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัย กรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง.สั่งให้ตรวจสอบการใช้เงินนอกงบประมาณจำนวน 32 ล้านบาทในการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศ ซึ่งเป็นการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยผิดคน จนทำให้ตัวเอง และวงตระกูลเสื่อมเสีย เนื่องจากหนังสือลับของ สตง.เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2555 ระบุว่า สตง.อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อโต้แย้งทางกฎหมายในการพิจารณาในการใช้ดุลยพินิจอธิบดี ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ และยังไม่แจ้งให้ดำเนินการทางวินัยกับตัวเขาเองในฐานะอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ แต่ให้ดำเนินการทางวินัยแก่ปลัดกระทรวงในขณะนั้น
ขณะเดียวกัน จะยื่นฟ้องนายสันติ ฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากไม่ลงนามในหนังสือชี้แจงไปยัง สตง.ที่ตัวเองเสนอ แต่กลับทำหนังสือขอขยายเวลาการชี้แจงออกไปอีก 60 เดือน โดยไม่แจ้งมายังตัวเอง และทำการชี้แจง และเมื่อทำหนังสือชี้แจงไปอีกครั้งก็ไม่ลงนาม
พร้อมกันนี้ นางพนิตายังไปยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อนายกรัฐมนตรี ที่อาคารรัฐสภาพ ด้วยตัวเอง เพื่อขอให้เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2555 ที่มีคำสั่งให้โยกย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี รวมถึงคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัย และหากไม่มีการดำเนินการภายในวันที่ 20 มีนาคม ก็จะทำหนังสือถึงคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมต่อไป
ปลัดกระทรวงกระทรวงพัฒนาสังคมฯปฏิเสธที่จะชี้แจงงบประมาณก่อสร้างอาคารที่ทำการแห่งใหม่ เพราะเป็นเรื่องภายใน และเป็นศักดิ์ศรีของข้าราชการภายในกระทรวง