ศาลปกครองยกคำร้องคุ้มครองชั่วคราวการระบายน้ำ

สังคม
16 มี.ค. 55
02:05
14
Logo Thai PBS
ศาลปกครองยกคำร้องคุ้มครองชั่วคราวการระบายน้ำ

ศาลปกครองกลางยกคำร้องที่ประชาชนรายหนึ่ง ยื่นคำร้องขอให้มีการระงับการกู้ถนน และการปิดประตูระบายน้ำ โดยเห็นว่า ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นต้องมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพราะสถานการณ์น้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

ศาลปกครองกลางอ่านคำพิพากษาในคดี นางทศสิริ พูลนวล ชาวบ้านใน จังหวัดนนทบุรี ยื่นฟ้องศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. และกรุงเทพมหานคร เพื่อให้มีคำสั่งระงับการกู้ถนนสาย 340 ถนนกาญนาภิเษก และระงับการปิดประตูระบายน้ำ และเสริมกระสอบทรายตามแนวคลองมหาสวัสดิ์ช่วงรอยต่อกับพื้นที่ จัดหวัดนนทบุรี ซึ่งนางทศสิริ ฟ้องว่า ศปภ.และ กทม.ปิดกั้นทางระบายน้ำทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ของ จังหวัดนนทบุรี ทำให้น้ำไม่สามารถไหลลงสู่ทะเลได้ เป็นเหตุให้น้ำท่วมขังและเน่าเสียบริเวณบ้านพักของตนเองในท้องที่ อำเภอบางบัวทอง และ อำเภอใกล้เคียงใน จังหวัดนนทบุรี จึงขอให้หน่วยงานทางปกครองทั้งสองดำเนินการระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยกรณีนี้ ศาลปกครองกลางพิจารณายกเลิกคำสั่งของศาลชั้นต้น เนื่องจากปัจจุบันน้ำได้สลายสิ้นไปหมดแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว

ด้านนางทศสิริ กล่าวว่า คดียังไม่สิ้นสุดเพราะได้ยื่นฟ้อง ศปภ. , กทม. และรัฐบาล ที่บริหารจัดการน้ำผิดพลาดทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และขาดกระบวนการให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยจากนี้หากศาลพิจารณาคดีต่อไป อยากให้คดีที่ตนยื่นฟ้อง เป็นบรรทัดฐานต่อการบริหารงานของรัฐบาล ที่ต้องยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง

ขณะที่ นายไพโรจน์ มินเด็น โฆษกศาลปกครอง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีคดีที่ประชาชนและเอกชนยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐ จากเหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554 จำนวน 45 คดี มีผู้ฟ้องคดีประมาณ 513 ราย โดยผู้ถูกฟ้องมีตั้งแต่นายกรัฐมนตรี , คณะรัฐมนตรี , ศปภ., กทม. , กรมชลประทาน, ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งข้อหาที่มีการฟ้องมากสุด คือ ละเลยต่อหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินควรทำให้ผู้ฟ้องคดีเสียหาย รองลงมา คือ บริหารจัดการน้ำบกพร่องทำให้เสียหาย และการละเมิดสิทธิด้วยการปิดกั้น สร้างสิ่งกีดขวาง ทำให้ได้รับความเสียหาย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง