สหรัฐฯชี้เกาหลีเหนือส่งจรวดพิสัยไกลนำดาวเทียวเข้าวงโคจร กระทบช่วยเหลือด้านอาหาร

สหรัฐฯเตือนเกาหลีเหนือว่าแผนการปล่อยจรวดพิสัยไกลเพื่อส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในเดือนหน้า อาจจะส่งผลกระทบต่อข้อตกลงเรื่องความช่วยเหลือด้านอาหารที่สหรัฐจะมอบให้เกาหลีเหนือ

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุว่า แผนการดังกล่าวถือเป็น "ภัยคุกคาม"และกระทบต่อความมั่นคงในภูมิภาค ซึ่งการปล่อยจรวดพิสัยไกลเพื่อส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในเดือนหน้าถือเป็นการละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือทำไว้เมื่อเดือนที่แล้ว และ อาจจะส่งผลกระทบต่อข้อตกลงเรื่องความช่วยเหลือด้านอาหารที่สหรัฐจะมอบให้เกาหลีเหนือ ทั้งนี้แผนการส่งจรวดปล่อยดาวเทียมทำให้นานาชาติออกมาประณามเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะเกาหลีใต้ที่มองว่า เป็นการกระทำที่ยั่วยุ

ก่อนหน้านี้สำนักข่าวของทางการเกาหลีเหนือประกาศจะปล่อยจรวดพิสัยไกลซึ่งใช้เทคโนโลยีเดียวกับขีปนาวุธพิสัยไกล เพื่อส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในโอกาสครบรอบ 100 ปีคิม อิล ซุง อดีตประธานาธิบดีผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ โดยมีกำหนดการปล่อยระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย.ซึ่งเป็นช่วงการเฉลิมฉลอง 100 ปีวันคล้ายวันเกิดนายคิม อิล ซุง คำประกาศมีขึ้นเพียง 16 วัน หลังจากที่ทางการเพิ่งประกาศจะยุติการทดลองนิวเคลียร์ และ ขีปนาวุธพิสัยไกล เพื่อแลกกับความช่วยเหลือด้านอาหารจากสหรัฐ

ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือ เคยอ้างการส่งดาวเทียมในการทดลองขีปนาวุธพิสัยไกลมาแล้วหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2551 ซึ่งจรวดพิสัยไกลบินข้ามน่านฟ้าญี่ปุ่นนำไปสู่การลงมติโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ห้ามเกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธ และ จากนั้นสถานการณ์ยิงเลวร้าย เพราะเกาหลีเหนือทำการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินจนถูกคว่ำบาตรห้ามการขายอาวุธ และอนุญาตให้มีการสกัดและตรวจสอบเรือต้องสงสัยของเกาหลีเหนือได้ทำให้เกาหลีเหนือตอบโต้ด้วยการไม่เข้าร่วมเจรจา 6 ฝ่าย เพื่อแก้วิกฤตนิวเคลียร์