“วิทยา” ระบุฐานความผิดกรณี จนท.สธ.ลักลอบขนยาแก้หวัดหนักถึงไล่ออก

อาชญากรรม
26 มี.ค. 55
04:07
9
Logo Thai PBS
“วิทยา” ระบุฐานความผิดกรณี จนท.สธ.ลักลอบขนยาแก้หวัดหนักถึงไล่ออก

รมว.สาธารณสุข ระบุฐานควาผิด กรณีลักลอบนำยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ เข้าไปเกี่ยวข้องโดยมีตั้งแต่ภาคทัณฑ์, ตัดเงินเดือน, ลดเงินเดือน ส่วนขั้นร้ายแรง มีทั้งปลดออก และไล่ออก

นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ระบุถึง กรณีลักลอบนำยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ออกจากโรงพยาบาลรวมถึงการสั่งซื้อที่ผิดปกติ และผิดขั้นตอนว่า ผลการตรวจสอบ เชื่อได้ว่ามีข้าราชการ 7 คน ประกอบด้วย เจ้าพนักงานเภสัชกรและเภสัชกรที่ โรงพยาบาลกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ และเภสัชกร อีก 5 คน ที่โรงพยาบาลภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โรงพยาบาลทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ โรงพยาบาลฮอด และโรงพยาบาลดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำยา แก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนออกจากโรงพยาบาล ซึ่งกระทำผิดวินัยร้ายแรงโทษอาจจะถึงขั้นไล่ออกจากราชการ

เบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหา มีสิทธิตามกฎหมายในการแก้ข้อกล่าวหาจากคณะกรรมการตรวจสอบ และจะต้องใช้เวลาในการสอบสวนอีกระยะหนึ่งก่อนสรุปผลสอบสวนอีกครั้ง สำหรับกระบวนการขั้นต่อไป หลังจากสรุปผลการสอบสวนเสร็จสิ้น จะส่งผลการสอบของกรรมการชุดดังกล่าว เข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยระดับต่ำกว่าซี 8 ลงมา หรือระดับชำนาญการพิเศษ จะเข้าสู่การตรวจสอบของ อนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) จังหวัด หากซี 9 ขึ้นไปหรือระดับเชี่ยวชาญจะเข้า อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มีคำสั่งลงโทษทางวินัย 2 ระดับ คือ ขั้นไม่ร้ายแรง ประกอบด้วย 1.ภาคทัณฑ์ 2.ตัดเงินเดือน 3.ลดเงินเดือน ส่วนขั้นร้ายแรง ประกอบด้วย ปลดออก และไล่ออก

ส่วนในวันนี้ (26 พ.ค.) นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะทำงานป้องกันปราบปราม ฟื้นฟู และเยียวยาด้านยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข จะรายงานความคืบหน้าในการตรวจสอบปัญหายาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ให้ รมว.สาธารณสุขรับทราบ พร้อมระบุว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมา 2 ปีแล้ว ก่อนที่รัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาทำหน้าที่ จึงมีคำถามว่า เหตุใดจึงปล่อยให้ปัญหาละเลยมาถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ นายพสิษฐ์ ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้มีการพยายามที่จะทำให้คณะทำงานชุดที่ตนเองเป็นประธานพ้นสภาพไป แต่ยืนยันว่าคณะทำงานจะทำหน้าที่ต่อไปอย่างดีที่สุด เพราะสิ่งที่ยึดถือในการทำงานคือ ความถูกต้อง และประชาชน ส่วนกรณีที่ มีการระบุว่า มีคนใกล้ชิดข้าราชการระดับสูงพัวพัวการจัดซื้อยาแก้หวัดนั้น นายพสิษฐ์ เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอยู่แล้ว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง