กรมการขนส่งทางบก ทดสอบระบบตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสาร เตรียมเอาจริง 1 เม.ย.นี้

กรมการขนส่งทางบก นำเครื่องตรวจจับความเร็วระบบ อาร์เอฟไอดี มาใช้ เพื่อตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสาร ที่วิ่งบนโทลเวย์-มอเตอร์เวย์ กำหนดไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากฝ่าฝืนจะถูกจับปรับ และถ้าพบกระทำผิดซ้ำโทษถึงขั้นยึดใบอนุญาต เร่งแก้ไขปัญหาการใช้ความเร็วของรถตู้โดยสาร ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอุบัติเหตุ

นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ กรมการขนส่งทางบก จะนำระบบเทคโนโลยีตราวจจับความเร็ว อาร์ไอดีเอฟ มาตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสาร ร่วมบริการของขสมก.และรถร่วม บขส. ที่วิ่งบนทางด่วน ทางด่วนโทลเวย์และทางพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ รวมถึงทางหลวงแผ่นดินในรัศมี 300 กิโลเมตร หากพบว่าวิ่งด้วยความเร็วเกินกว่า90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และถูกตรวจพบจะถูกปรับทันที 5,000 บาท และหากพบทำผิดซ้ำจะถูกปรับเพิ่มเป็น 10,000 บาท พร้อมถอนรถออกจากการประกอบการ

ด้าน นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้จัดการใหญ่ บริษัทขนส่งจำกัด หรือ บขส. ยืนยันว่า ขณะนี้รถร่วม บขส. ที่มีมากกว่า 4,000 คัน ได้ติดตั้งระบบอาร์เอฟไอดีหมดแล้ว

ขณะที่ นายโอภาส เพชรมุนี ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ระบุว่ารถตู้ร่วมบริการของ ขสมก.ที่มี ประมาณ 5,471 คัน ขณะนี้ติดตั้งระบบนี้ไปแล้ว กว่า 2,000 คัน และมั่นใจว่าภายในวันที่ 1 เมษายนนี้จะสามารถติดตั้งได้ครบทั้งหมด

เครื่องตรวจจับความเร็วหรืออาร์เอฟไอดี ที่มีลักษณะเป็นแถบพลาสติก ติดกับไฟหน้ารถ หรือหลังป้ายต่อภาษี เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่กรมการขนส่งทางบก จะนำมาช่วยลดอุบัติเหตุของรถตู้โดยสาร ที่พบสถิติการเกิดอุบัติ จากการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตมากขึ้น สำหรับสถิติการเกิดอุบัติเหตุของรถตู้โดยสารสาธารณะช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ พบเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง 17 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 27 คน และบาดเจ็บ 137 คน