คุมเข้ม ตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสารสาธารณะด้วยระบบ RFID 4 วัน พบรถตู้โดยสารที่ขับเร็วเกินกำหนดกว่า 200 คัน

สังคม
6 เม.ย. 55
11:54
19
Logo Thai PBS
คุมเข้ม ตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสารสาธารณะด้วยระบบ RFID 4 วัน พบรถตู้โดยสารที่ขับเร็วเกินกำหนดกว่า 200 คัน

แนะประชาชนใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น

นายอัฌษไธค์  รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากการที่กรมการขนส่งทางบก ได้นำระบบเทคโนโลยี RFID มาตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสารสาธารณะที่วิ่งบนทางด่วน ทางยกระดับโทลล์เวย์ และมอเตอร์เวย์ วันที่ 1 – 4 เมษายน 2555 (เวลา 24.00 น.) ปรากฏว่า มีรถตู้โดยสารสาธาณะที่ติดตั้งระบบ RFID วิ่งผ่านเครื่องตรวจจับความเร็ว จำนวน 19,762 คัน ในจำนวนนี้ พบ รถตู้โดยสารสาธาณะที่ขับเร็วเกินกำหนด จำนวน 250 คัน ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะทำหนังสือแจ้งบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อประสานไปยังผู้ขับรถที่มีพฤติกรรมดังกล่าวให้มารายงานตัวและชำระค่าปรับ 5,000 บาท ภายใน 15 วัน กรณีกระทำความผิดซ้ำปรับ 10,000 บาท พร้อมถอนรถออกจากการประกอบการ ทั้งนี้ หากไม่มารายงานตัวภายในกำหนด กรมการขนส่งทางบกจะบันทึกการกระทำความผิดไว้ที่ต้นทะเบียน ส่งผลให้รถคันดังกล่าว ไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเว่า ปัจจุบันมีการติดตั้งเครื่องอ่าน (RFID READER) ตามเส้นทาง ต่าง ๆ เพื่อตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสารสาธารณะ และมีการทดสอบระบบโดยสมบูรณ์พร้อมใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพตามเป้าหมาย โดยขณะนี้กรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างเร่งสำรวจและติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็วระบบ RFID ในเส้นทางหลักรัศมี 300 กิโลเมตร รอบกรุงเทพฯ และจะขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศโดยเส้นทางภาคเหนือจะติดตั้งถึงจังหวัดนครสวรรค์ ภาคอีสาน ติดตั้งถึงจังหวัดนครราชสีมา ภาคตะวันออกถึงจังหวัดระยอง และภาคใต้ถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขอให้ประชาชนใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น เพื่อให้ได้รับสิทธิ์คุ้มครองความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี RFID โดยขอให้สังเกตจากแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ถูกต้อง ต้องเป็นทะเบียนสีเหลือง ตัวเลขและตัวอักษรสีดำ ด้านข้างรถมีเครื่องหมายแสดงการเข้าร่วมกับ ขสมก. หรือ บขส. พร้อมชื่อเส้นทาง

ส่วนรถตู้โดยสารสาธารณะที่ผิดกฎหมาย จะเป็นป้ายสีขาว ตัวเลขและตัวอักษรสีน้ำเงิน หรือสีดำ ซึ่งการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่ผิดกฎหมายนั้น  นอกจากจะไม่ปลอดภัยแล้วยังยากต่อการติดตาม ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เมื่อเกิดปัญหาอาชญากรรมด้วย ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการจับกุมรถผิดกฎหมายไปพร้อมกันด้วย ดังนั้นจึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นเครือข่ายในการส่งเสริมความปลอดภัย 

หากพบเห็นรถตู้โดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย เอาเปรียบผู้โดยสารแจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง