นายนิรุธ เพชรรัตน์ และนายพรชัย พูลเกษม ถูกตำรวจภูธรอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ควบคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาอินทร์บุรี หลังร่วมกับพวกบุกปล้นเงินจากพนักงานบริษัทโพรเกรส จำกัด เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะทำแผนเจ้าหน้าที่ต้องสวมเสื้อเกราะให้กับผู้ต้องหาเพื่อความปลอดภัยตลอดเวลา
จากการสอบสวนหนึ่งในผู้ต้องหาทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้สะกดรอยตามรถขนเงิน ตั้งแต่ปั้มน้ำมัน ปตท ในเขตอำเภอเมือง จ.นครสวรรค์ ก่อนขับรถติดตามถึงธนาคารกสิกรไทย สาขาชันสูตร อำเภอเมือง จ.สิงห์บุรี และลงมือปล้นเงินที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาอินทร์บุรี ซึ่งในขณะนั้น พ.ต.อ.พิจิตร กรมประสิทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรไทรงาม จ.กำแพงเพชร จอดรถเฝ้าติดตามสถานการณ์ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร
จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้ขับรถติดตามรถขนเงินที่พยายามหลบหนี ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก แต่เพราะรถขนเงินเป็นรถกันกระสุน กลุ่มผู้ต้องหาจึงขับรถย้อนกลับไปทาง จ.สระบุรี มุ่งหน้า จ.นครราชสีมา ก่อนจะนำถุงใส่เงินไปเผาทิ้งที่ จ.ชัยภูมิ และไปแบ่งเงินกันที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ใน จ.กำแพงเพชร โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยอมรับว่า ได้เงินส่วนแบ่งคนละ 200,000 บาท ส่วนที่เหลือ พ.ต.อ.พิจิตรเป็นผู้เก็บไว้ทั้งหมด
ส่วนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ตลอดทั้งวันนี้ (16 พ.ค.) พล.ต.ต.ประเสริฐ กาฬรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมพนักงานสอบสวน ได้รอการเข้ามอบตัวของ พ.ต.อ.พิจิตร แต่ไม่มีการติดต่อขอเข้ามอบตัว
ขณะที่ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ขณะนี้ผู้ต้องหายังคงหลบหนีอยู่ในประเทศ ส่วนแรงจูงใจในการปล้นครั้งนี้ ต้องรอการสอบปากคำ พ.ต.อ.พิจิตรก่อน นอกจากนั้นจะมีการพิจารณาโทษทางวินัย ผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่าผู้ต้องหา ที่ปล่อยปละละเลยหรือบกพร่อง
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.40 น.พล.ต.ต.ประเสริฐ ให้สัมภาษณ์ ไทยพีบีเอสว่า พ.ต.อ.พิจิตร ผู้ต้องหาในคดีปล้นทรัพย์ ยังไม่เข้ามอบตัวตามที่ได้นัดหมายไว้ ขณะเดียวก็ไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ เบื้องต้นได้จัดกำลังเพื่อติดตามตัวแล้ว