กสท.หยุดขยายโครงข่าย 3 จี ชั่วคราว รอความชัดเจนทางกฎหมาย

จากปัญหาสัญญา 3 จี ระหว่างบริษัท กสท.โทรคมนาคม และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่การสอบสวนว่า ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ในหลายประเด็น ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่า บริษัท กสท.จะหยุดการขยายโครงข่าย 3 จี ในชื่อแบรนด์ "มาย" ชั่วคราว จนกว่าฝ่ายเกี่ยวข้องจะตีความทางกฎหมายชัดเจน แต่เชื่อมั่นจะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าที่ใช้บริการ 3 จีของทรู ซึ่งเป็นบริษัทคู่สัญญา

นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท. โทรคมนาคม ระบุว่า ขณะนี้จำเป็นต้องหยุดการขยายโครงข่าย 3 จี ไว้ก่อนเพื่อให้กระบวนการทางกฎหมายต่อกรณีการทำสัญญาระหว่าง กสท. และบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น มีความชัดเจน ซึ่งการตัดสินใจนี้ เป็นไปตามข้อแนะนำของสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ผู้บริหาร กสท. ยืนยันว่า การยุติขยายโครงข่าย 3 จี จะไม่กระทบกลุ่มลูกค้า 3 จี ทรูมูฟเอช เพราะเกี่ยวข้องเฉพาะโครงข่ายของ กสท. หรือ ลูกค้า 3 จี มาย ที่มีประมาณ 10,000 เลขหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มลูกค้าของทรูเกือบ 2 ล้านเลขหมาย

ขณะที่ นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช.คุ้มครองผู้บริโภค ในกิจการโทรคมนาคม ระบุว่า กสท.ควรประกาศให้ลูกค้าทราบว่ามีพื้นที่ใดบ้างที่จะไม่ขยายโครงข่าย เพื่อให้ผู้บริโภคพิจารณาว่าจะใช้บริการต่อ หรือ ย้ายไปค่ายใหม่

นายเมธี ครองแก้ว ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนสัญญา 3 จี กสท.-ทรู ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คาดว่า การสอบสวนคดีนี้จะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน และ ส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ พิจารณาชี้มูลต่อไป

โดยในวันที่ 28 พ.ค.นี้ ผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา จะมาชี้แจ้งประกอบด้วยนายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท. ซึ่งเป็นผู้ลงนามในสัญญา รวมถึงบอร์ดในขณะนั้น ส่วนนายจุติ ไกรฤกษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เพราะยังไม่มีรายชื่อเกี่ยวข้องในสำนวน

ล่าสุดนายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทฯยังไม่ทราบรายละเอียดของนโยบาย หรือ คำสั่งใดๆ อย่างเป็นทางการจาก บริษัทกสท. ในประเด็นที่เกิดขึ้น แต่เชื่อมั่นว่า บริษัท กสท.จะคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญ และบริษัททรูฯ ขอยืนยันว่า ยังให้บริการทรูมูฟ เอช 3 จีเป็นปกติไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด