ครบรอบ 10 ปีวันประกาศเอกราชติมอร์ เลสเต้

ต่างประเทศ
20 พ.ค. 55
16:34
55
Logo Thai PBS
ครบรอบ 10 ปีวันประกาศเอกราชติมอร์ เลสเต้

วันนี้ (20 พ.ค.) เป็นวันประกาศเอกราชของชาติ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นคือ ประเทศติมอร์ ตะวันออก หรือติมอร์ เลสเต้ เมื่อ 10 ปีก่อน แม้ว่าตอนนี้ติมอร์ยังคงยากจน และยังมีปัญหาสังคมมากมาย แต่ทิศทางของประเทศก็เริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาด้านประชาธิปไตย

การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุด ของติมอร์ เลสเต้ที่เพิ่งผ่านพ้นไป เป็นตัวชี้วัดถึงเสถียรภาพทางการเมืองของติมอร์ เลสเต้ ว่ามีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นการเลือกตั้งที่ว่ากันว่ามีความเสรี เที่ยงธรรม และโปร่งใสมาก แต่บททดสอบของชาติที่เพิ่งมีอายุครบ 10 ปีอย่างติมอร์ เลสเต้ และปีนี้พวกเขายังมีด่านทดสอบสำคัญอีก 2 ด่านด้วยกันคือ

วันนี้ชาวติมอร์ เลสเต้ ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีวันคล้ายวันประกาศอิสรภาพของประเทศ จากการครอบครองของอินโดนีเซีย โดยมีแขกผู้มีเกียรติจากนานาประเทศ เข้าร่วมงาน ซึ่งก็รวมถึง พล.ท.สุสิโล่ บัมบัง ยูโดโยโน่ ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และประธานาธิบดีอนิบาล คาวาโก้ แห่งโปรตุเกส เข้าร่วมพิธีฉลองที่กรุงดิลี่

นายทาอูร์ มาทาน รูอัค ประธานาธิบดีติมอร์ เลสเต้ กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันคล้ายวันประกาศอิสรภาพ แสดงความขอบคุณสหประชาชาติ ที่มีบทบาทสำคัญในการประคับประคองติมอร์นาน 2 ปี ก่อนการประกาศอิสรภาพอย่างเป็นทางการ รวมทั้งชาติต่างๆ ที่ร่วมมือกับสหประชาชาติ จนก่อกำเนิดติมอร์ เลสเต้ ก่อนร่วมกันสงบนิ่ง 1 นาทีเพื่อระลึกถึงวีรบุรุษ และวีรสตรีของชาติ ที่เสียสละชีวิตต่อสู้กับอินโดนีเซีย จนได้มาซึ่งอิสรภาพ

พิธีฉลองครบรอบ 10 ปีวันคล้ายวันประกาศอิสรภาพติมอร์ เลสเต้ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากนายรูอัค วัย 55 ปี สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีติมอร์อย่างเป็นทางการเมื่อหลังเที่ยงคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ขึ้นดำรงตำแหน่งต่อจาก นายโฮ่เซ่ รามอส ฮอร์ต้า หลังคว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งได้รับการชื่นชมว่าเป็นการจัดการเลือกตั้งที่เสรี เที่ยงธรรม และโปร่งใส สะท้อนให้เห็นถึงความมีวุฒิภาวะทางการเมือง และพัฒนาการประชาธิปไตยในประเทศที่มีอายุเพียง 10 ปีประเทศนี้

แม้ช่วง 4 -5 ปีที่ผ่านมา ติมอร์ เลสเต้ จะสงบสุขและมีความมั่นคงทางการเมืองเพิ่มขึ้นมาก แต่ปีนี้ยังมีบททดสอบสำคัญของชาวติมอร์อีกหลายอย่าง ทั้งการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคม รวมทั้งการรับมอบอำนาจในการดูแลความมั่นคงในประเทศ จากกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ที่ถึงกำหนดถอนทหารออกจากติมอร์สิ้นปีนี้

และปัญหาสำคัญที่ท้าทายผู้นำใหม่ คือการแก้ไขปัญหาความยากจน เนื่องจากประชากรราวครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดราว 1.1 ล้านคนของติมอร์ เลสเต้ยังมีฐานะยากจน ซึ่งผู้นำใหม่ของติมอร์ ก็กล่าวถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจของประเทศให้หลากหลาย และลดการพึ่งพิงทรัพยากรน้ำมัน และสินค้าจากต่างประเทศ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง