ป.ป.ช.คาดปิดสำนวนข้อหา 
ทั้งนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างพิจารณาข้อหาการทุจริตประพฤติมิชอบในหน้าที่ราชการ ซึ่งจำเป็นต้องหาพยานหลักฐานมาประกอบการพิจารณา และข้อหาการแจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินอันเป็นเท็จ
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ทั้ง 2 ข้อหา ป.ป.ช.จะปิดสำนวนไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้ สำหรับอัตราโทษกรณีแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ตามกฎหมาย ป.ป.ช.ได้กำหนดอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำ และปรับ ต่อการแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ 1 ครั้ง ส่วนข้อหาร่ำรวยผิดปกติ ที่ได้ตัดสินเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) นอกจากได้ยึดเงินสดจำนวน 17,553,000 บาท และทองคำรูปพรรณอีก 10 บาท ทรัพย์สินอื่น เช่น เงินฝากในบัญชี สิ่งปลูกสร้าง และรถยนต์ ป.ป.ช. นัดประชุมพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 29 พ.ค.
ขณะที่ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคมคาดว่า จากนี้ ป.ป.ช.จะส่งผลการพิจารณาอย่างมาเป็นทางการมายังกระทรวงฯ จากนั้นกระทรวงฯจะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อ เพราะแม้ นายสุพจน์จะลาออก แต่ก็ยังเป็นข้าราชการบำนาญ และระหว่างรอโปรดเกล้าฯ ให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งกรรมการชุดดังกล่าวอาจเป็น นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานให้ทำหน้าที่พิจารณาสอบต่อเพราะเคยดำเนินการสอบเรื่องนี้ หรือ อาจตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ขณะที่บรรยากาศบ้านนายสุพจน์หลังคำตัดสินจาก ป.ป.ช. ค่อนข้างเงียบ โดยเจ้าตัวเก็บตัวอยู่ภายในบ้าน ไม่ออกมาพบกับสื่อมวลชนที่มาดักรอสัมภาษณ์แต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ นายสุพจน์ ได้ยื่นจดหมายลาออกจากการปฎิบัติราชการในตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคมเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่ง ป.ป.ช.ยืนยันว่าการลาออกไม่เกี่ยวกับคดีที่ ป.ป.ช.จะตัดสิน และไม่มีผลให้การตรวจสอบต่างๆ ต้องยุติลง