ค่าแรง 300 กระทบแรงงานนอกระบบ ปธ.เครือข่ายวอนรัฐควบคุมราคาจ้างงาน
แรงงานนอกระบบกลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้าในเคหะร่มเกล้าคนหนึ่ง เผยว่า การปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทใน 7 จังหวัด ทำให้พวกเธอต้องทำงานมากขึ้นอย่างน้อยวันละ 16 ชั่วโมงจากเดิม 10 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ชิ้นงานมากขึ้น แต่รายได้เฉลี่ยก็ยังอยู่ที่ 150-200 บาทต่อคน เหตุผลที่แรงงานที่รับงานมาทำที่บ้าน ต้องทำงานหนักมากขึ้น เนื่องจากเจ้าของกิจการที่นำงานมาให้ทำ อ้างว่าต้นทุนการผลิตสูง จึงจำเป็นต้องลดค่าจ้างการผลิตชิ้นงานลง ทำให้แรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าหลายคน เปลี่ยนไปอาชีพอื่น เช่น พนักงานทำความสะอาด เพราะรายได้ไม่เพียงพอกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น
ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากการปรับค่าแรง 300 บาท เป็นปัญหาที่ประธานเครือข่ายแรงงานนอกระบบ เรียกร้องให้ภาครัฐเร่งควบคุมราคาสินค้าโดยเร็วที่สุด เพราะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบโดยตรง เช่น ปัญหาครอบครัว และหนี้สิน เพราะแรงงานกลุ่มนี้ไม่มีการประกันรายได้ เหมือนกับแรงงานในระบบที่ทำงานอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรม
ประธานเครือข่ายแรงงานนอกระบบ ยังเสนอให้ ภาครัฐควบคุมราคาการจ้างงานแต่ละชิ้น ที่กลุ่มผู้รับงานมาทำที่บ้านรับมาทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกับในโรงงาน เพราะเห็นว่าการออกนโยบายค่าแรง 300 บาทที่ผ่านมา ภาครัฐไม่ได้มองผลกระทบของแรงงานนอกระบบ ทำให้ไม่มีมาตรการช่วยเหลือทั้งที่มีจำนวนมากที่สุดถึง 25 ล้าน จากแรงงานทั้งหมดในประเทศไทยประมาณ 38 ล้านคน และยังเชื่อว่า หากยังไม่มีการควบคุมราคาสินค้าอย่างจริงจังก่อนการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท อีก 70 จังหวัดที่เหลือในวันที่ 1 มกราคม 2556 ปัญหาผลกระทบของแรงงานนอกระบบก็จะขยายวงกว้างมากขึ้น