อุปสรรคด้าน
ปัญหาปัญหา "จอดำ" ในการถ่ายทอดสัญญาณการแข่งขันฟุตบอลยูโร ผ่านฟรีทีวี ยังคงเป็นประเด็นให้กสทช.ซึ่งเป็นหน่วยองค์กรอิสระ มีหน้าที่กำกับดูแลกิจการด้านวิทยุ โทรทัศน์ และ โทรคมนาคม โดยตรงยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ลงตัวร่วมกับทุกฝ่าย ทำให้เครือข่ายผู้บริโภค ซึ่งเห็นว่าประชาชนเสียประโยชน์จากการไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรครั้งนี้รวมตัวจัดกิจกรรมเตะฟุตบอล ล้อเลียน กสทช. ถึงภายในสำนักงาน จากความไม่จริงจังในการแก้ปัญหา
ขณะที่ วันนี้ (18 มิ.ย.) บอร์ด กสท. ก็ยังไม่มีมติใด ๆ ที่ชัดเจน ต่อประเด็นที่เครือข่ายผู้บริโภคเรียกร้อง ทั้งขอให้ออกคำสั่งให้ฟรีทีวียกเลิกการบล็อกสัญญาณถ่ายทอดฟุตบอล สอบสวนบริษัท กสท.โทรคมนาคม ที่เป็นผู้ถ่ายทอดสัญญาณ โดยทั้ง กสท. และแกรมมี่ยังไม่ได้ขออนุญาต กสทช. จนทำให้แกรมมี่ ได้ประโยชน์จากการผูกขาดลิขสิทธิ์ รวมถึงการขอให้ออกคำสั่งปรับทางปกครองกับบริษัทจีเอ็มเอ็มแซทด้วย
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช.ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท.ให้เหตุผลว่า ไม่แน่ใจว่ามีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายหรือไม่ แม้จะมีการประกาศใช้แผนแม่บทกิจการวิทยุและโทรทัศน์แล้ว
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ระบุว่า มติดังกล่าวส่งผลให้ กสทช.ที่ดูแลงานด้านคุ้มครองผู้บริโภคทำความเห็นสวนมติบอร์ดทุกประเด็น เพราะเห็นว่า เป็นปัญหาที่ควรแก้ไขเร่งด่วน โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย ของพระราชบัญญัติประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ปี 2551 ดำนินการเอาผิดกับฟรีทีวีได้ โดยเฉพาะกรณีที่ไม่แจ้งปรับเปลี่ยนผังรายการให้ กสทช.ทราบล่วงหน้า
ขณะที่ นายสมเกียรติ อ่อนวิมล นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น กสทช.ไม่ควรสับสน และควรปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยี ไม่เช่นนั้นจะอยู่ในภาวะไร้อำนาจต่อไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญปี 2550 เขียนชัดเจนว่า ช่อง 3 5 7 9 11 เป็นฟรีทีวี ที่รัฐให้สัมปทานคลื่นความถี่ ถือเป็นทรัพยากรของชาติ ประชาชนจึงมีสิทธิได้ดูโดยไม่เสียเงินไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบหรือช่องทางใดก็ตาม ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเห็นว่า แกรมมี่ ควรถูกตำหนิเพราะเอาเปรียบผู้บริโภค ขณะที่ช่องฟรีทีวี ซึ่งได้รับสัมปทานจากรัฐก็ควรมีความผิดเช่นกันเพราะสมยอมปล่อยให้แกรมมี่เดินเกมจนเกิดปัญหาจอดำ
ด้านนายนำชัย น้อยบรรจง แกนนำสหพันธ์ผู้บริโภคเห็นว่า แกรมมี่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แต่ก็ไม่ควรละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการรับชมผ่านฟรีทีวี
ทั้งนี้ ในเดือน ก.ย.นี้ กสทช. คาดว่า กฎกติกาทุกอย่างจะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งเรื่องการกำหนดกรอบ หลักเกณฑ์ และการให้ใบอนุญาตประเภทกิจการ ตามที่ กสทช. แบ่งประเภทไว้ทั้งทางด้านวิทยุ และโทรทัศน์ แต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้านั้น น.ส.สุภิญญา มองว่า อาจต้องให้ผู้บริโภคไปฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง และจะได้สร้างบรรทัดฐานให้เกิดขึ้นกับสังคม