ชาวหนองบัวลำภู ต่อต้านออกสัมปทานโรงโม่หิน หวังปกป้อง 
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ กรมป่าไม้ได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการรายหนึ่งเข้าใช้ประโยชน์ด้วยการทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรม ภายในป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันไดในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเก่ากลอย-นากลาง อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ซึ่งได้สร้างความกังวลใจให้กับชาวบ้าน เพราะเกรงว่า การระเบิดหินอาจทำให้พวกเขาไม่สามารถประโยชน์พื้นที่ป่าซึ่งเคยเป็นแหล่งอาหารของชุมชนได้
ตามที่ อุเทน อินทร์เจริญ ชาว ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ที่กล่าวว่า "หากผู้ประกอบการได้เข้ามาทำจริงๆ ก็อาจจะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน"
ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได มีเนื้อที่กว่า 175 ไร่ นอกจากจะเป็นแหล่งอาหารของชุมชนแล้ว ยังเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนตามหลักสูตรท้องถิ่นเรื่องการอนุรักษ์ฟื้นฟูชุมชนของโรงเรียนบ้านผาซ่อนโชคชัยตำบลดงมะไฟ แต่ภายหลังภาครัฐออกประทานบัตรให้กับเอกชนเข้าทำเหมืองหินเมื่อ 10 ปีก่อนนักเรียนก็ไม่สามารถใช้ผืนป่าแห่งนี้เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ได้อีกต่อไป
โดย บรรพต เตชะศรี อดีตข้าราชการครู ต.ดงมะไฟอ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู เผยว่า "ตอนนี้ไม่สามารถมาเรียนได้แล้วจึงต้องเปลี่ยนสถานที่เรียน"
เมื่อปี 2543 อุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภูประกาศให้เขตป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันไดเป็นพื้นที่ที่ได้รับประทานบัตรเพื่อสร้างโรงโม่หินและอยู่ระหว่างการยื่นต่ออายุประทานบัตรอีก 10 ปี
ขณะที่กรมป่าไม้ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ยังคงอนุญาตให้ผู้ประกอบการเข้าทำประโยชน์เช่นเดิมโดยอ้างว่า ผ่านการทำประชาคมหมู่บ้านแล้ว แต่จากหลักฐานของชาวบ้าน ทำให้เชื่อได้ว่าเอกสารที่กรมป่าไม้นำมาประกอบการพิจารณาเป็นเท็จจึงเรียกร้องให้ระงับการเข้าใช้ประโยชน์ของนายทุน
การร้องเรียนผ่านทางจังหวัดให้เร่งตรวจสอบกรณีการปลอมแปลงเอกสารควบคู่กับการร้องเรียนผ่านคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและสภาทนายความคือแนวทางการต่อสู้ของกลุ่มชาวบ้านเพื่อรักษาผืนป่าแห่งนี้ให้คงความเป็นป่าชุมชนต่อไป ล่าสุดคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติสรุปข้อร้องเรียนโดยให้ผู้ประกอบการชะลอการเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันไดจนกว่ากระบวนการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ