คนไทยมีแท็บเล็ตใช้ 1 ใน 3 ส่วนเอเชีย-แปซิฟิกผู้ใช้สมาร์ทโฟนโตเพิ่มมากขึ้น

Logo Thai PBS
คนไทยมีแท็บเล็ตใช้ 1 ใน 3 ส่วนเอเชีย-แปซิฟิกผู้ใช้สมาร์ทโฟนโตเพิ่มมากขึ้น

คนใช้มือถือสิงคโปร์ 7 ใน 10 คนมีสมาร์ทโฟน แต่ไทยยังอยู่ที่ 27%1 ใน 3 ผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทยมีแท็บเลตอย่างน้อยหนึ่งเครื่องด้านโฆษณาผ่านมือถือยังไม่โดนใจผู้บริโภค

 จากการศึกษาทำความเข้าใจผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบสมาร์ทโฟนของนีลเส็นที่จัดทำขึ้นใน 39 ประเทศทั่วโลก 13 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก พบว่า ประเทศสิงคโปร์ เป็นประเทศที่ผู้บริโภคใช้สมาร์ทโฟนมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก (72%) ตามมาด้วยประเทศเกาหลี (67%) ฮ่องกง (58%) และไต้หวัน (51%) โดยประเทศไทยมีอัตราการครอบครองโทรศัพท์สมาร์ทโฟนอยู่ที่ 27% เป็นอันดับที่ 8 ในภูมิภาค ตามหลังเวียดนาม และ มาเลเซีย 

 
จำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มมากขึ้นยังส่งผลให้จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่มากขึ้นตามไปด้วย  โดยเฉพาะการใช้โซเซียลเน็ตเวิคและการค้นหาข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดย 9 ในสิบผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนในญี่ปุ่นใช้โทรศัพท์ของตนในการต่อเชื่อมอินเตอร์เน็ท ตามมาด้วยเกาหลีที่  80%  ประเทศไทยมีอัตราการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ที่เกือบครึ่งหนึ่ง (47%) และอินเดียเป็นประเทศที่ใช้โทรศัพท์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตน้อยที่สุดในภูมิภาค (15%)  ฮ่องกง และ มาเลเซียเป็นสองประเทศที่นิยมใช้โซเซียลมีเดียผ่านมือถือเป็นพิเศษ โดยมีอัตราการเข้าใช้แอพพลิเคชั่นดังกล่าวถึง  76% และ 74% ต่อกิจกรรมที่ทำผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดในแต่ละเดือน
 
นอกจากนี้ การศึกษาของนีลเส็นยังพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนมีแทบเล็ตจำนวนหนึ่งเครื่อง โดยประเทศจีนคิดเป็นจำนวน 39% ไทยคิดเป็น 32% และมาเลเซียคิดเป็น 30% จากผู้ใช้มือถือสมาร์ทโฟนทั้งหมด ซึ่งตัวเลขดังกล่าวย้ำความสำคัญของการทำความเข้าใจความแตกต่างในพฤติกรรมการบริโภคข้อมูลผ่านเครื่องมือสื่อสารทั้งสองประเภท
 
ความนิยมในการใช้สมาร์ทโฟนยังส่งผลให้การใช้แอพพลิเคชั่นบอกตำแหน่งสถานที่มีเพิ่มมากขึ้น โดยประเทศที่มีผู้นิยมใช้บริการเกี่ยวกับการบอกสถานที่มากที่สุดคือ ประเทศเกาหลี (59%) ตามมาด้วยญี่ปุ่น (56%) ฮ่องกงและไต้หวัน (53%)
 
วิแชล บาลี (Vishal Bali) ผู้อำนวยการฝ่ายเทเลคอม อินดัสตรี กรุ๊ป ของนีลเส็นภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคกล่าวว่า ความนิยมในการใช้บริการบอกตำแหน่งสถานที่ เช่น แผนที่ หรือ เนวิเกเตอร์ สร้างผลดีกับบริษัทในการแสดงตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทและแสดงให้ผู้อื่นรับรู้ถึงบริการต่างๆของบริษัท โดยเฉพาะร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ อย่างไรก็ตามโปรแกรมเหล่านี้ผู้ใช้หลักยังคงเป็นผู้บริโภคในประเทศที่มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีมาอย่างยาวนาน เช่น ประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และจีน ส่วนในประเทศอื่นๆเช่น อินโดนีเซียและมาเลเซีย การใช้งานยังคงเน้นที่โซเซียลเน็ตเวิคและการค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต 
 
เกมส์ยังคงเป็นแอพพลิเคชั่นที่เป็นที่นิยมมากสุดในเอเชียแปซิฟิค ยกเว้นประเทศอินโดนีเซียที่นิยมใช้แอพพลิเคชั่นเพลงและโซเซียลเน็ตเวิค
 
จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนทั่วภูมิภาคที่เพิ่มมากขึ้นทำให้การโฆษณาผ่านสมาร์ทโฟนสามารถเข้าถึงผู้บริโภคหมู่มากได้  โดยในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศจีนเกือบ 8 ใน 10 คน (77%) ได้เห็นโฆษณาผ่านมือถือของตน ตามมาด้วยมาเลเซีย (74%) และเกาหลีและฮ่องกง (66%) อย่างไรก็ดี การ “ได้เห็น” ไม่ได้หมายความว่าจะ “ได้ผล” เสมอไป เพราะการสำรวจพบว่า ผู้ใช้สมาร์ทโฟนจำนวนมากในภูมิภาคไม่เคยคลิกชมโฆษณาผ่านมือถือเลยแม้แต่ครั้งเดียว  
 
บาลี แนะว่าปัจจัยหลักๆ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนในภูมิภาคหันมาสนใจโฆษณาผ่านมือถือมากขึ้นประกอบไปด้วย:
•การปรับปรุงดีไซน์ของโฆษณาให้เหมาะกับการรับชมผ่านโทรศัพท์มือถือ
•การออกแบบโฆษณาให้สามารถรองรับขนาดหน้าจอที่แตกต่างกันของโทรศัพท์ในแต่ละรุ่น รวมไปถึงการโฆษณาที่เน้นตามกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่การโฆษณาหว่านแบบ mass
•ใช้แอพพลิเคชั่นบริการด้านการบอกสถานที่ประกอบเข้ากับสื่อโฆษณาเพื่อเพิ่มความเกี่ยวข้องของโฆษณาต่อผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคอยากทราบข้อมูลมากขึ้น
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง