นักวิชาการห่วงแนวคิดนำยาจากโครงการยาเก่าแลกไข่กลับมาใช้ใหม่

3 ก.ค. 55
14:41
14
Logo Thai PBS
นักวิชาการห่วงแนวคิดนำยาจากโครงการยาเก่าแลกไข่กลับมาใช้ใหม่

นักวิชาการด้านเภสัชศาสตร์เป็นกังวลถึง แนวคิดการนำยาจากโครงการยาเก่าแลกไข่ของกระทรวงสาธารณสุขกลับมาใช้ใหม่ เพราะอาจเสื่อมสภาพ และเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย ขณะที่วันที่ 2 ของการเปิดรับแลกยาเก่า ยังได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มยารักษาโรคเรื้อรังต่างๆ

วันชัย ทองนที ผู้ป่วยโรคเบาหวาน นำยารักษาโรคประจำตัว ที่รับประทานไม่หมด รวมถึงยาสามัญประจำบ้าน และยาต่างๆ ซึ่งเป็นยาเหลือใช้ของสมาชิกในครอบครัว มามอบให้กับเจ้าหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ตามโครงการยาเก่าแลกไข่ของกระทรวงสาธารณสุข โดยวันชัย กล่าวว่า โครงการนี้ ทำให้มีโอกาสได้จัดตู้ยาครั้งใหญ่ และทราบว่ามียาเหลือใช้อยู่ในบ้านเป็นจำนวนมาก จึงนำยาเหล่านี้มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์กับผู้ป่วยคนอื่นๆ ต่อไป

ยาเก่าที่ได้รับ เจ้าหน้าที่จะนำมาคัดแยกประเภทยาออกเป็นกลุ่มๆ โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มยารักษาโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน และยาลดไขมัน รวมถึง แยกยาที่หมดอายุ ออกจากยาที่คาดว่าจะนำกลับมาใช้ได้ใหม่ ก่อนที่จะรวบรวมนำไปส่งต่อให้กับโรงพยาบาลประจำจังหวัด เพื่อทำการตรวจวิเคราะห์คุณภาพยาว่าสามารถนำกลับมาใช้ได้อีกหรือไม่ และหากเป็นยาที่หมดอายุ หรือ เสื่อมสภาพ ก็จะนำไปทำลาย

โครงการยาเก่าแลกไข่ ระหว่างวันที่ 2 - 5 กรกฎาคมนี้ เป็นมาตรการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเกิดความตระหนัก และใช้ยาอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสะท้อนขนาดปัญหาการใช้ยาเกินความจำเป็นของคนไทย เพื่อวางระบบในการแก้ปัญหา หลังพบว่าคนไทยมีสถิติการใช้ยาเฉลี่ยถึงวันละ 128 ล้านเม็ด มูลค่ากว่าปีละ 100,000 ล้านบาท

ขณะที่โครงการนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก แต่นักวิชาการด้านเภสัชศาสตร์เป็นกังวลกับแนวคิดที่จะนำยาที่ได้รับการส่งคืน กลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง โดยเฉพาะยาที่เหลือวันหมดอายุเกิน 9 เดือนขึ้นไป ซึ่งอาจเสื่อมสภาพ และเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้

นักวิชาด้านเภสัชศาสตร์สังคมยังเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุข คำนึงถึงความปลอดภัยการนำยาจากโครงการนี้กลับมาใช้ใหม่ และวางมาตรการปัญหาการใช้ยาเกินจำความเป็น ด้วยการให้ อสม.ทั่วประเทศ ออกเยี่ยมบ้าน สร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้ยา รวมถึงแนะนำวิธีการเก็บรักษาอย่างถูกวิธีให้กับประชาชน เพื่อแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง