ผลสอบอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 
เจ้าหน้าที่รัฐ และ บริษัทเทปโก้ เจ้าของโรงไฟฟ้า และ รายงานฉบับนี้จะนำไปอภิปรายในสภาไดเอท เพื่อพิจารณาว่า ญี่ปุ่นควรจะใช้พลังงานนิวเคลียร์ต่อไปหรือไม่ หลังสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลจากโรงไฟฟ้าฟูกูจิมะ เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหว และ สึนามิเมื่อปีที่แล้ว
โดยผลการสอบสวนของคณะกรรมาธิการสืบสวนอิสระกรณีอุบัติเหตุโรงไฟ้านิวเคลียร์ฟูกูจิมะ เผยว่า ความหายนะที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟฟูกูจิมะ ไดอิจิ เป็นความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ ทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ และ เจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้าของบริษัทโตเกียวอิเล็กทริคพาวเวอร์ หรือ เทปโก้ โดยไม่ได้เกิดจากภัยธรรมชาติ จากเหตุแผ่นดินไหวและสินามิเพียงอย่างเดียว
นายคิโยชิ คุโรกาวะ ประธานคณะกรรมธิการ กล่าวว่า ผู้ควบคุมโรงไฟฟ้าและเจ้าหน้าที่ของเทปโก้ไม่ได้เตรียมรับมือกับเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะเตรียมพร้อมได้ล่วงหน้า พร้อมเผยว่า โรงไฟฟ้าแห่งนี้ตัดงบประมาณด้านความปลอดภัยเพราะผลประกอบการลดลงอยางต่อเนื่องมาหลายปี ทั้ง ๆ ที่บอกกับสาธารณชนว่า ยึดถือความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก
รายงานของคณะกรรมาธิการฯ ยังระบุด้วยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้น พบว่า นายคัง ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นบริหารงานบกพร่อง เนื่องจากรับมือสถานการณ์อย่างล่าช้าและไม่เพียงพอ เพราะขาดการเตรียมตัวล่วงหน้า รวมทั้งให้ข้อมูลที่สับสนและไม่เพียงพอต่อประชาชนด้วย
ประธานคณะกรรมาธิการ กล่าวอีกว่า จะแจกรายงานการสอบสวนฉบับสุดท้ายให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำไปอภิปรายในสภาไดเอท และ รายงานนี้ควรให้ประชาชนรับทราบด้วย ซึ่งโฆษกสภาผู้แทนราษฎรรับปากว่า จะนำรายงานนี้ไปอภิปรายเพื่อพิจารณาถึงทิศทางนโยบายพลังงานของญี่ปุ่นในอนาคต
สำหรับคณะกรรมาธิการชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐสภา ได้เก็บข้อมูล เป็นเวลา 6 เดือน หรือ 900 ชั่วโมง โดยพูดคุยกับผู้คนกว่า 1,100 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้าฟูกูจิมะ และ นายนาโอโตะ คัง อดีตนายกรัฐมนตรี
หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูจิมะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงและสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหล รัฐบาลจึงสั่งปิดโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ทุกแห่งเพื่อตรวจระบบความปลอดภัยและซ่อมบำรุง แต่รัฐบาลเพิ่งอนุมัติให้เดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์โอหิ หมายเลข 3 และ 4 ที่ จังหวัดฟุกุอิ อีกครั้งเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อน ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด