ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เผยผลตรวจสอบกรณีนักข่าวรับเงินจากแหล่งข่าว ใกล้เสร็จ รอ "พล.ต.อ.สุรเชษฐ์" ให้ข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษร ก่อน25 เม.ย. พร้อมตรวจสอบกรณี "ทนายตั้ม" พาดพิงเส้นทางเงินเว็บพนันโยงบิ๊กตำรวจ นักข่าว องค์กรสื่อ
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือที่รู้จักกันในชื่อทนายตั้ม ออกมาเปิดหลักฐาน เส้นทางการเงินระหว่างเว็บพนันออนไลน์ ที่โยงไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นการเปิดหน้าชน อย่างไม่เกรงกลัว ทำเพราะต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงขององค์กรตำรวจดีขึ้นแต่กระแสสังคมตั้งข้อสังเกตว่า ทำเพื่อชาติหรือเพื่อใคร
น่าจะไม่จบง่าย ๆ ปัญหาในวงการตำรวจ การออกมาเปิดข้อมูลเส้นทางการเงินของเครือข่ายพนันออนไลน์ที่อ้างว่าโยงถึงคนใกล้ชิดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ของนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” และได้ยื่นข้อมูลให้ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ตรวจสอบ ทำให้ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ตั้งทีมทนายฟ้อง “ทนายตั้ม” ข้อหาหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ขณะที่ ป.ป.ช. ก็พร้อมตรวจสอบแต่ต้องรอให้ "ทนายตั้ม" ส่งข้อมูลมาก่อน
นายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงนามคำสั่งย้าย 2 นายพลตำรวจไปเมื่อสัปดาห์ก่อนเลยได้เห็น ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร. ไปรายงานตัวที่สำนักนายกรัฐมนตรี คาดการณ์กันว่าคำสั่งนี้ ออกมาเพื่อระงับยับยั้งไม่ให้ความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลุกลามบานปลาย แต่เรื่องที่ดูเหมือนว่าน่าจะจบ อย่างน้อยก็ให้คดีความที่ค้างคาได้เดินหน้าตามกระบวนการอย่างสงบ แต่มันไม่จบอย่างที่บางคนคาดหวังไว้ หรืออาจจะรวมคนที่ลงนามคำสั่งย้ายด้วย หลังทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่อ้างว่าเชื่อมโยงถึงนายตำรวจระดับสูง
วานนี้ (26 มี.ค. 67) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ หรือทนายตั้ม ออกมาแถลงข่าวตั้งข้อสังเกตเส้นทางเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ ถูกส่งไปยังบุคคลใกล้ชิด พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รวมถึงตำรวจคนอื่น ๆ และองค์กรต่าง ๆ เช่น สมาคมนักข่าว โดยข้อมูลทั้งหมดจะนำไปมอบให้ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในวันพรุ่งนี้ (28 มี.ค.)