ตำรวจไซเบอร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรข้ามชาติ จับผู้ต้องหาต่างชาติ ตั้งแก๊งหลอกผู้เสียหายให้ลงทุนผ่านแพลตฟอร์มสกุลเงินคริปโตเคอเรนซี อ้างได้กำไรสูง จนท.สามารถยึดอายัดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำผิดกว่า 250 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลางร่วมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา 44 คน ยึดทรัพย์เกือบ 70 ล้านบาท เครือข่ายเว็บพนัน กว่า 30 เว็บไซต์ พบเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันเช่าเว็บมาทำเอง เปิดฟาร์มกระบือประกวดสวยงามบังหน้า
ในทุกวันนี้มีประชาชนเสียหายจากการถูกหลอกลวงด้วยกลวิธีต่าง ๆ มากมายที่เหล่ามิจฉาชีพสรรหามาใช้กับเรา เมื่อเร็ว ๆ นี้ บรรดามิจฉาชีพได้มีการยกระดับการโกหกหลอกลวง โดยการเปิดบัญชีม้า หรือจ้างคนอื่นเปิดในนามนิติบุคคล ทั้งที่อาจจะไม่ได้มีตัวตนจริง หรืออาจจะตั้งชื่อซ้ำกับบริษัท หน่วยงาน องค์กร ที่มีอยู่จริงก็ได้ ทำให้ประชาชนที่ติดต่อซื้อ - ขายอะไรก็ตาม อาจจะโอนเงินผิดไปเข้ากระเป๋ามิจฉาชีพเหล่านี้ได้ การปลอมเป็นนิติบุคคลเพื่อไปเปิดบัญชีม้า มีอะไรที่ประชาชนอย่างเราควรจะรู้ทันเอาไว้บ้าง ร่วมพูดคุยกับ พ.ต.ต.พากฤต กฤตยพงษ์ สารวัตรฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากร 5 กองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ชมย้อนหลังรายการ "วันใหม่วาไรตี้" ในช่วง "รู้ทันกันได้" ได้ที่ www.thaipbs.or.th/WanmaiVarietyRuTanKanDai
"สืบนครบาล IDMB" ของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล โพสต์ข้อความเตือนภัยรูปแบบการก่อเหตุใหม่ ระบุว่า "ขณะนี้มีแก๊งบัญชีม้าจะยืนอยู่แถวตู้ ATM พอมีเหยื่อมา คนร้ายจะยื่นบัตร ATM ให้เราช่วยกดเงิน โดยแจ้งว่ากดไม่เป็น และให้เราเป็นคนกดเงินให้ โดยคนร้ายจะยืนรออยู่ข้างนอก เมื่อเราเข้าไปกด ใบหน้าเราจะถูกกล้องจับว่าเป็นคนกดเงินบัญชีม้า และพอคนร้ายได้เงินมันก็เดินจากไป แต่อีกไม่ถึงอาทิตย์ เหยื่อกลับถูกออกหมายเรียก ในฐานะคนกดบัญชีม้า"
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เปิดหลักฐานเพิ่ม เป็นภาพขณะกลุ่มบุคคลนำถุงเงินไปให้นายชูวิทย์ ท้าให้นายชูวิทย์ ชี้แจงเพิ่ม ขณะที่โรงพยาบาลศิริราช แถลงเหตุคืนเงินที่นายชูวิทย์บริจาค ระบุเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจผิดกฎหมาย
