เมื่อภัยแล้งมาเยือน หลายหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลต้องพึ่งพาเพียงน้ำฝน และแหล่งน้ำธรรมชาติ เริ่มขาดแคลนทั้งน้ำกิน น้ำใช้แล้ว อย่างที่อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ชาวบ้านที่นี่ต้องเดินไปตักน้ำในลำห้วยที่ห่างจากหมู่บ้านกว่า 1 กิโลเมตรมาใช้ประจำวัน
สงกรานต์เมืองหมอแคน ดินแดนดอกคูณ ปีนี้จัดใหญ่จัดเต็ม กิจกรรม ระหว่างวันที่ 1-21 เม.ย.2567 หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว และสร้างการรับรู้ให้กับชาวต่างชาติ ว่า ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางภาคอีสาน มี “ถนนข้าวเหนียว” ที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่รับรู้ของคนอีสาน
สถานณ์การแล้งส่งผลทำให้น้ำใน 4 เขื่อนหลักมีปริมาณน้อย จากฝนทิ้งช่วง ซึ่งไม่ใช่แค่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ คนกรุงเทพฯ ก็ต้องเตรียมรับมือ เพราะน้ำที่ใช้อุปโภคบริโภคปีนี้ อาจมีรสชาติกร่อย ในเดือน เม.ย.-พ.ค. สิ่งนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากน้ำต้นทุนถูกสูบไปทำการเกษตร
ปีนี้ยังคงเป็นปีทองเกษตรกร ทั้งชาวสวนยาง เเละ ชาวนา โดยเฉพาะข้าวที่ขณะนี้ ราคาดีสูงในรอบ 16 ปี ด้านสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า ราคาข้าวที่สูง เนื่องจากอินเดียระงับการส่งออก และปัญหาภัยแล้ง ทำให้ความต้องการนำเข้าเพิ่มขึ้น ข้าวราคาดีก็ทำให้ชาวนาวางแผนปลูกข้าวต่อเนื่อง แม้จะเสี่ยงกับภัยแล้ง
ภัยแล้งปี 2567 คาดว่าจะยาวนาน ปรากฏชัดในหลายพื้นที่เริ่มขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร ทำให้เกษตรกรบางส่วนปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย อย่าง ประจักษ์ ศรีสกุล เกษตรกร ต.บ้านข่อย อ.เมืองลพบุรี ปลูกพืชใช้น้ำน้อยมา 3 ปี เลือกแบบที่ให้ผลผลิตหมุนเวียนได้ตลอดทั้งปี เช่น พริก มะเขือ ฯลฯ ปัจจุบันสามารถเก็บผลผลิต ส่งขายตามตลาด มีรายได้ทุกวัน
ภัยแล้งในภาคอีสาน เริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้น เมื่อน้ำในอ่างเก็บน้ำ 27 แห่งของ จ.นครราชสีมา มีปริมาณกักเก็บและน้ำใช้การ ลดลงต่อเนื่อง ภาพรวมทั้งจังหวัดพบว่า ปริมาณน้ำเก็บกักปัจจุบัน เหลือที่ใช้การได้เพียง 540 ล้านลูกบาศก์เมตร เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 มีน้ำใช้การได้กว่า 900 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ มาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด บางวันอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส
วันนี้ (21 ก.พ. 67) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ พบปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมอยู่ที่ร้อยละ 67 ของความจุเก็บกัก และปริมาณน้ำใช้การอยู่ที่ ร้อยละ 53 เป็นข้อกังวลของภาครัฐเกี่ยวกับปริมาณน้ำในฤดูแล้งนี้ ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ประเมินปริมาณน้ำภาพรวมทั้งปี 2567 คาดว่าจะมีเพียงพอหรือไม่ ?
เกษตรกรบ้านหนองทุ่ม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เปลี่ยนที่นา กว่า 40 ไร่ ปลูกหญ้าไว้ขายให้กับเกษตรกรที่เลี้ยงวัวและควายในช่วงหน้าแล้ง หลังจากเริ่มทำได้รู้ว่าการปลูกหญ้าดีกว่าการทำนาข้าวมาก จึงปรับเปลี่ยนที่นาของตนเองทั้งหมดมาเป็นแปลงหญ้า โดย 1 ปี สามารถตัดขายได้ 8 ครั้ง รวมรายได้ทั้งปีขายได้เป็นแสนบาทต่อไร่ แต่ถ้าปลูกข้าวนาปี ปลูกได้แค่ปีละครั้ง ครบเครื่อง ครบรส สดชื่นรับอรุณ กับ "วันใหม่ ไทยพีบีเอส" ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 05.00 - 07.00 น. ทางไทยพีบีเอส ได้ที่ www.thaipbs.or.th/WanmaiThaiPBS