บุกตะลุยป่าชายเลน ตามหา "เพรียงเรือ" ที่ ตำบลชำราก อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "สะลอมาจู" และเมนูสูตรเด็ด "ยำเพรียงเครื่องเปรี้ยว" หน้าตาและรสชาติแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร ห้ามพลาดเด็ดขาด<ul><li>เกร็ดความรู้</li></ul>เพรียงเรือ หรือเจาะไม้ เป็นสัตว์ในกลุ่มหอยสองฝา ที่มีรูปร่างแปลกแตกต่างจากหอยสองฝาโดยทั่วไป มีลำตัวนิ่มยาวคล้ายหนอน พบได้ทั่วไปทั้งทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน พบได้ทั้งในแหล่งน้ำกร่อยและแหล่งน้ำเค็ม มักเจาะอาศัยอยู่ในต้น โกงกางและต้นตะบูนที่ยืนต้นตายหรือล้มจมอยู่ในน้ำ ชาวบ้านตำบลชำราก อำเมืองตราด จังหวัดตราด และตำบล อื่น ๆ ในอำเภอเมืองตราด มีภูมิปัญญาในการนำส่วนของตัวเพรียงมากิน ตั้งแต่โบราณ สืบทอดมาสู่ปัจจุบัน ได้แก่ เพรียงสด จิ้มน้ำพริกเกลือติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน เพรียงเรือ วันเสาร์ที่ 13 เมษายน 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ภัตตาคารบ้านทุ่ง

ThaiPBS VOD

เพรียงเรือ

พาไปขุดหอยทะเลสองฝาที่ขึ้นชื่อของบ้านคันนา ต.ห้วงน้ำขวาง อ.เมืองตราด จ.ตราด มีชื่อว่า "หอยอินิ" พร้อมนำไปเข้าครัวปรุงเมนูพื้นบ้าน "สำรับหอยอินิ" และเมนูสูตรเด็ด "หลนหอยอินิดอง" <ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>"หอยอินิ" หรือหอยหวานของบ้านคันนา เป็นหอยทะเล 2 ฝา ที่มีเปลือกด้านใน มีลายและสีคล้ายกับแสงพระอาทิตย์ตกดิน เป็นหอยเนื้อรสชาติหวาน จนชาวบ้านในพื้นที่นิยมเรียกว่า "หอยหวาน" หอยชนิดนี้อาศัยอยู่ในดินทรายผสมหิน ซึ่งพื้นที่แบบนี้จะโผล่พื้นมาช่วงน้ำทะเลแห้ง ชาวบ้านเรียกกันว่า "โขดหอย" ซึ่งชาวบ้านที่บ้านคันนาใช้วิธีการขุดหาแบบพื้นบ้าน มีอุปกรณ์เฉพาะที่น่าสนใจ ได้แก่ คราดมือ ใช้สำหรับขุดและกะลามะพร้าวที่ใช้สำหรับช่วยวิดน้ำ มีเมนูดั้งเดิมยอดนิยม คือ หอยอินิต้มเค็มหวาน หลนหอยอินิดอง เป็นต้นติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน หอยอินิ วันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

หอยอินิ

ปกติกินถั่วพูก็เน้นกินส่วนฝักอ่อนกันเป็นหลัก แต่ที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี กินต่างออกไป เพราะชาวบ้านที่นี่นิยมกินรากหรือส่วนที่เป็นหัวของถั่วพูพันธุ์ท้องถิ่น โดยการนำไปต้มเป็นรากถั่วพูต้ม เนื้อเหนียวหนึบ แถมยังมีให้กินแค่ปีละครั้ง กลายเป็นที่ต้องการของตลาดและเป็นรายได้ให้คนในชุมชน ติดตามชมรายการไทยบันเทิง ย้อนหลังได้ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/program/ArtandCultureThaiPBS/episodes/100615" target="_blank" rel="noopener noreferrer" data-auth="NotApplicable" data-linkindex="0">www.thaipbs.or.th/program/ArtandCultureThaiPBS/episodes/100615</a>

ไทยบันเทิง

อิ่มมนต์รส : "รากถั่วพู" ถั่วพูกินรากของคนโพธาราม ราชบุรี

พาไปค้นหากล้วยสายพันธุ์ไทยโบราณอย่าง "กล้วยหักมุก" ที่ ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "แกงคั่วกล้วยหักมุกซุกกุ้งอัมพวา" และเมนูสูตรเด็ด "กล้วยหักมุกคลุกมะพร้าว"เกร็ดน่ารู้ "กล้วยหักมุก" เป็นกล้วยสายพันธุ์ไทยโบราณ มีลักษณะเด่น คือ ส่วนของผลมีเหลี่ยมชัดเจน เปลือกหนา เนื้อสีเหลือง โดยผลกล้วยหักมุกในระยะดิบแก่ มีเปลือกสีเขียวอ่อน สามารถนำไปทำเมนูกล้วยหักมุกทอด หรือนำไปใส่แกงคั่วได้ ส่วนระยะผลสุก นิยมนำไปย่าง ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีกลิ่นหอม ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน กล้วยหักมุก วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

กล้วยหักมุก

พาล่องเรือไปในลำคลอง ตามหา "ปลากระแห" ที่ ต.บางกะดี อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นบ้าน "ปลากระแหต้มเค็มหวาน" และเมนูสูตรเด็ด "ผัดพริกแล่นใบปลากระแหใส่เม็ดบัว" กระบวนการและรสชาติแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไรโปรดติดตาม<ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>"ปลากระแห" เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งในวงศ์ปลาตะเพียน มีลักษณะคล้ายปลาตะเพียนทอง มีลักษณะเด่นคือ มีครีบและหางสีส้มแดงสวยงาม และมีลายสีดำ ทำให้มีชื่ออื่นว่า "ตะเพียนหางแดง" สามารถพบได้ทั่วไปในแม่น้ำลำคลองทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยชาวบ้านริมคลองบางหลวงเชียงราก มีภูมิปัญญาในการหาปลากระแหได้หลากหลายวิธี ทั้งตกเบ็ด ลอยข่าย และทอดแหติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ปลากระแห วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ปลากระแห

ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอนพิเศษ พาไปเรียนรู้เรื่องราว "อาหารแห่งวัฒนธรรมชุมชนไทยเบิ้งโคกสลุง" ที่ ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "ลาบปลากาเครื่องดำเครื่องสด" และเมนู "หลามปลา" เรื่องราวของมรดกทางภูมิปัญญาอาหารพื้นบ้านจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน อาหารแห่งวัฒนธรรมชุมชนไทยเบิ้งโคกสลุง (ตอนพิเศษ) วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

อาหารแห่งวัฒนธรรมชุมชนไทยเบิ้งโคกสลุง (ตอนพิเศษ)

ไปเรียนรู้ภูมิปัญญาการใช้ประโยชน์จาก "ต้นอ้อ" ที่ ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "แหนมต้นอ้อผัดไข่" และเมนู "ลาบแหนมต้นอ้อ" กระบวนการและหน้าตาแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม<ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>"ต้นอ้อ" หรือ "ต้นแขม" เป็นพืชในวงศ์หญ้า ขึ้นเป็นกอขนาดใหญ่ สูงได้ถึง 6 เมตร ชาวบ้านอำเภอบ้านไร่ นำส่วนต่าง ๆ ของต้นอ้อมาใช้ประโยชน์ เช่น ใช้ลำต้นอ้อมาสานทำเสื่อหรือฝาบ้าน ใช้ดอกอ้อมาทำไม้กวาด และที่สำคัญ คือ มีภูมิปัญญาในการนำลำต้นอ้อ มาเป็นกระบอกสำหรับบรรจุแหนม เกิดเป็นแหนมต้นอ้อที่เป็นเอกลักษณ์ และพบเพียงแห่งเดียวในอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ข้อดีของลำอ้อที่นำมาใช้ในการบรรจุแหนมคือ ความเปรี้ยวจากลำอ้อ ทำให้แหนมเปรี้ยวเร็วขึ้น และมีรสชาติอร่อยติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ต้นอ้อ วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ต้นอ้อ

บุกขึ้นดอยตามหาผักพื้นบ้านบนพื้นที่สูง ของพี่น้องชาติพันธุ์อิ้วเมี่ยน "แจอ่อเมี้ยะ" ที่ ต.ผาทอง อ.ท่าวังผา จ.น่าน พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูสมุนไพร "แจอ่อเมี้ยะ" และเมนูหลามพื้นถิ่น "ปั๊วะตุ้งอ๊อ" หน้าตาและรสชาติแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร ห้ามพลาด<ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>"แจอ่อเมี้ยะ" หรือ ว่านท้องใบม่วง มีลักษณะเด่น คือ ส่วนของท้องใบมีสีม่วง เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ที่พี่น้องชาติพันธุ์อิ้วเมี่ยนบ้านสันเจริญ นิยมปลูกไว้ในไร่กาแฟ หรือบนพื้นที่สูง ที่มีอากาศเย็น มีสรรพคุณพื้นบ้าน บำรุงกำลัง เหมาะสำหรับสตรีหลังคลอดบุตร ช่วยบำรุงน้ำนม ซึ่งพี่น้องอิ้วเมี่ยนจะนำส่วนของใบมาประกอบเมนูอาหาร โดยการนำมาต้มกับไก่ดำหรือไก่บ้านติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน แจอ่อเมี้ยะ วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

แจอ่อเมี้ยะ

ชวนเข้าครัวกับแขกรับเชิญ คุณสมใจ ไชยพล ที่เดินทางมาจาก ต.ท่าสะอาด อ.เซกา จ.บึงกาฬ นำปลาในลุ่มแม่น้ำสงครามที่มีความหลากหลาย และปลาที่มีความพิเศษหนึ่งปีกินได้แค่ครั้งเดียว อย่าง ปลาหมู ปลาขนาดเล็กตามธรรมชาติ มาทำอาหารพื้นบ้านที่มีความเรียบง่ายอย่าง ต้มส้มปลาหมูใส่ใบมะขามอ่อน ที่ได้ความเปรี้ยวอ่อน ๆ จากใบมะขามอ่อน และแกงหน่อไม้เปรี้ยวปลาหมู
สูตรเด็ดจากรายอาหาร : แกงหน่อไม้เปรี้ยวปลาหมู<ul><li>ปลาหมู 4 - 5 ตัว</li><li>ตะไคร้หั่นแฉลบ 2 ต้น</li><li>ใบมะกรูดฉีก 4 - 5 ใบ</li><li>หน่อไม้ดองเปรี้ยว 1 - 2 ถ้วย</li><li>เกลือสินเธาว์บ่อหัวแดด 1 - 2 ช้อนชา</li><li>น้ำมะขามเปียก 1 - 2 ช้อนโต๊ะ</li><li>พริกขี้หนูบุบหยาบ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ</li></ul>วิธีทำ ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า เปิดไฟอ่อน ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด ต้มจนน้ำเดือดจัด ใส่ปลาหมู และหน่อไม้ดองเปรี้ยว ปรุงรสด้วยพริกขี้หนูบุบหยาบ เกลือ และน้ำมะขามเปียก คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ<img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/Rp/k1/1Rpk1BaX22va-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
สูตรเด็ดจากรายอาหาร : ต้มส้มปลาหมูใบมะขามอ่อน 
<ul><li>ปลาหมู 4 - 5 ตัว</li><li>ตะไคร้หั่นแฉลบ 2 ต้น</li><li>ใบมะกรูดฉีก 4 - 5 ใบ</li><li>ยอดมะขามอ่อน 1 - 2 ถ้วย</li><li>เกลือสินเธาว์บ่อหัวแฮด 1 - 2 ช้อนชา</li><li>น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ</li><li>พริกขี้หนูบุบหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ</li><li>ต้นหอม ผักชีฝรั่งหั่นท่อน </li></ul>วิธีทำ ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า เปิดไฟอ่อน ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด และยอดมะขามอ่อน ต้มน้ำจนเดือดจัด ใส่ปลาหมู ต้มจนปลาสุก ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำมะขามเปียก และพริกขี้หนูบุบหยาบ คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่ต้นหอม ผักชีฝรั่งหั่นท่อน ปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ<img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/Rp/k1/1Rpk1DlnbvYH-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
ติดตามได้ในรายการกินอยู่คือ วันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2567 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

กินอยู่คือ

กินปลาแม่น้ำสงคราม

ตื่นแต่เช้าตรู่ไปเดินเที่ยวตลาดโอ๊ะป่อย ตลาดกะเหรี่ยงยามเช้าริมธาร ณ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เริ่มต้นด้วยการพาไปชมกิจกรรมไฮไลต์ของตลาดนั่นก็คือ "ตักบาตรพระล่องแพ" พร้อมกับจะพาไปชิมอาหารหลากรสของชาวกะเหรี่ยง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่มเบญจชาไทย, ขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย, ข้าวแดกงา, ข้าวหลามสูตรโอ๊ะป่อย, ข้าวเกรียบว่าว, ข้าวแกงกะเหรี่ยง, หมี่ถ่อง ขนมมงคลของชาวกะเหรี่ยง และตบท้ายด้วยเชฟบุ๊คแวะซื้อผักสด ๆ วัตถุดิบพื้นบ้านจากในตลาด มาทำเป็นอาหารจานเด็ดที่ชื่อว่า "หมี่เบ๊อะ" จะอิ่มอร่อย และฟินแค่ไหน
สูตรเด็ดจากรายการ : หมี่เบ๊อะ
<ul><li>พริกขี้หนู </li><li>กระเทียม </li><li>ขมิ้น </li><li>เกลือ </li><li>หมูสับ </li><li>ข้าวที่ยังไม่สุก </li><li>ผักชีซอย</li></ul>วิธีทำ ตำพริกขี้หนู กระเทียม ขมิ้น เกลือ ตำเครื่องให้พอหยาบ ๆ นำพริกแกงมาคั่วให้หอม ตามด้วยเนื้อหมู ผัดจนสุก ตามด้วยข้าว หลังจากนั้นเติมน้ำให้ท่วมข้าว เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนสุก โรยหน้าด้วยผักชีซอย คนให้เข้ากันแล้วปิดไฟ<img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/Rc/Xx/1RcXxFSv7sBE-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
ติดตามชมรายการ Foodwork วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2566 เวลา 17.05 - 17.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live"></a><a href="http://www.thaipbs.or.th/live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

Foodwork

โอ๊ะป่อย ตลาดกะเหรี่ยงยามเช้าริมธาร

พาขึ้นดอยอ่างขาง ตามหาผักพื้นถิ่นเมืองหนาว อย่าง "ผักขี้วัว" ที่ ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "สำรับผักขี้วัว" และเมนูสูตรเด็ดแบบฉบับจีนยูนนาน "ซุปซี่โครงผักขี้วัว"<ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>"ผักขี้วัว" เป็นพืชชนิดหนึ่ง ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางแถบเมดิเตอเรเนียน มีการนำมาเข้ามาปลูกในแถบเอเชีย และถูกนำเข้ามาปลูกในประเทศจีนสมัยราชวงศ์ซ่ง จนกลายเป็นผักที่ได้รับความนิยมในการรับประทานในประเทศจีน และญี่ปุ่น รวมถึงเกาหลีด้วย โดยผักขี้วัวเป็นผักที่มีกรอบ ฉ่ำน้ำ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ชาวบ้านที่บ้านปางม้านิยมกินสดคู่กับน้ำพริกถั่วเน่า หรือนำไปใส่เมนูประเภทต้มติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ผักขี้วัว วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2566 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ผักขี้วัว

พาเข้าสวนชวนไปดูไม้ประดับกินได้ นั่นคือ "โกสน" ที่ ต.บางพรม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "ยำปลาทูแดดเดียวแม่กลองใบโกสน" และเมนูขนมโบราณ "แกงเส้นร้อนแม่กลอง" หน้าตาและรสชาติจะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม<ul><li>เกร็ดน่ารู้</li></ul>"โกสน" เป็นไม้พุ่มที่ใบมีรูปทรงและสีสันสวยงามเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับขนานนามว่าเป็น "ราชาแห่งไม้ประดับ" และเป็นไม้ประดับที่รับประทานได้ มีการนำส่วนของยอดอ่อน และใบเพสลาดมารับประทาน ยอดอ่อนจะมีรสชาติหวานเล็กน้อย มีความกรอบ แตกต่างกันไปในแต่ละสายพันธุ์ แต่เมื่อนำไปปรุงสุกหรือผ่านความร้อน ใบจะมีความมันเพิ่มขึ้น คนภาคเหนือนิยมกินยอดอ่อนเป็นผักสดหรือต้มจิ้มน้ำพริก คนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิยมกินกับส้มตำติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน โกสน วันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2566 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

โกสน

พาไปเรียนรู้ภูมิปัญญาพื้นถิ่น "หีบน้ำอ้อยโบราณบ้านหนองบัว" ที่ ต.หนองบัว อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นถิ่น "หมึกฮิบ" และเมนูขนมโบราณ "ขนมตะไลน้ำอ้อย" ขั้นตอนและรสชาติจะเป็นอย่างไร ติดตามพร้อมกัน<ul><li>เกร็ดความรู้</li></ul>"น้ำตาลอ้อย" หรือในภาษาพื้นถิ่นบ้านหนองบัว ที่ ต.หนองบัว อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี เรียกว่า "น้ำอ้อย" เป็นน้ำตาลชนิดหนึ่ง ที่ได้มาจากกระบวนการแปรรูปด้วยภูมิปัญญาแบบโบราณ โดยการหีบน้ำอ้อย และนำน้ำอ้อยสดไปต้มเคี่ยวในกระทะจนเข้มข้น หลังจากนั้นนำไปบดเป็นเม็ดจนกลายเป็นผงที่มีสีเหลืองนวล หอมละมุน เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของน้ำอ้อยบ้านหนองบัว และเป็นที่นิยมในการนำไปทำอาหาร และขนมพื้นบ้านติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน หีบน้ำอ้อยโบราณบ้านหนองบัว วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

หีบน้ำอ้อยโบราณบ้านหนองบัว

พาไปรู้จัก "เรือผีหลอก" ภูมิปัญญาในการหาปลาลุ่มน้ำบางปะกง ที่ ต.บางพระ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นถิ่น "ปลาต้มเค็มกินคู่น้ำพริกมะม่วง" และเมนู "เมี่ยงปลากะพงบวชชี" กระบวนการและรสชาติจะเป็นอย่างไร ห้ามพลาด!!<ul><li>เกร็ดความรู้</li></ul>"เรือผีหลอก" เป็นภูมิปัญญาการหาปลาพื้นบ้านวิธีหนึ่ง ชาวบ้านในพื้นที่ ต.บางพระ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เรียกว่า "เรือเป๊ะ" หรือ "เรือสัมเป๊ะ" โดยเรือมีลักษณะลำแคบยาว มีการติดแผ่นกระดานสีขาวด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งขึงอวนไว้ ใช้วิธีการพายเรือบริเวณริมตลิ่งช่วงน้ำลดในระยะเวลากลางคืน เพื่อทำให้ปลาตกใจแผ่นกระดานสีขาว และกระโดดขึ้นลำเรือ ราวกับว่า "ผีหลอกปลา" จึงเรียกชื่อว่า "เรือผีหลอก" ซึ่งในปัจจุบันถือว่าพบเจอได้ไม่มากนัก ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน เรือผีหลอก วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2566 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

เรือผีหลอก

เข้าสวนชวนไปเรียนรู้เรื่องราวของ "อุตพิด" ที่ ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นถิ่น "แกงอุตพิด" และเมนู "ขนมปะดาอุตพิด" ขั้นตอนและรสชาติแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร ติดตามรับชมพร้อมกัน<ul><li>เกร็ดความรู้</li></ul>อุตพิด เป็นพืชล้มลุกอายุหลายปีอยู่ในวงศ์บุกบอน มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนของทวีปเอเชีย และพบได้ทุกภาคในประเทศไทย เอกลักษณ์ของต้นอุตพิดคือ ความคัน และกลิ่นของดอกที่เล่าลือกันว่ามีกลิ่นเหม็น อุตพิดถือเป็นพืชสมุนไพรโบราณที่ปรากฏอยู่ในหลายตำรับตำรายาโบราณ ซึ่งในตำรายาส่วนมากจะใช้ประโยชน์จากหัวแห้งของอุตพิดมาทำสมุนไพร เรียกว่า โหรามโหราหรือโหรามหุรา นอกจากจะอยู่ในตำรายาแล้ว ในภาคใต้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชก็ยังมีภูมิปัญญาสำคัญที่นำก้านใบของอุตพิดมาปรุงเมนูอาหารอีกด้วย ซึ่งในพื้นที่ ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ชาวบ้านจะใช้อุตพิด ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในชุมชน ขึ้นตามสวนทุเรียน สวนมังคุด รวมถึงบริเวณริมน้ำ ชายคลอง มาประกอบอาหาร โดยเก็บเอาก้านใบมาปรุงเมนูพื้นบ้านยอดนิยม ก็คือ แกงอุดพิดติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน อุตพิด วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

อุตพิด

ชุมชนที่นี่เลี้ยงหมูเอง แล้วก็มีการนำเนื้อหมูไปทำเป็นอาหารหลากหลายประเภท แต่ที่ขึ้นชื่อก็คือ การนำเนื้อหมูไปทำจิ้นส้ม หรือว่าแหนมนั่นเอง ผ่านภูมิปัญญาของผู้คนในชุมชนส่งต่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ด้วยการลงมือทำตั้งแต่เลี้ยงหมูไปจนถึงทำจิ้นส้มกันเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้วยังมีเมนูจานสุขจากหนอนรถด่วนที่ได้มาจากกระบอกไม้ไผ่ในชุมชน ด้วยการนำมาต้มแล้วทำน้ำพริกรถด่วน คู่กับแกงแค ซึ่งหมายถึงแกงรวมผักท้องถิ่นนานาชนิดเสริมสร้างโภชนาการชั้นดีให้กับเยาวชน ติดตามชมรายการ อาหารจานสุข วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เวลา 08.00 - 08.30 น. ทางไทยพีบีเอส รับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live"></a><a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

อาหารจานสุข

อร่อยเหลือ (จิ้น) ตนาการที่บ้านโป่งกวาว

ชวนเข้าครัว กับแขกรับเชิญ คุณแก้ว บุญทอง ชาติพันธุ์ปลัง กลุ่มชาติพันธุ์ที่มีประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานมาอย่างยาวนาน นำอาหารท้องถิ่นของชาวปลังที่รับประทานอยู่ในวิถีชีวิตประจำวัน อย่าง น้ำพริกปลัง เป็นน้ำพริกใส่หมูแดดเดียว กินกับผักสดหลากชนิด และแกงหัวปลีใส่ข้าวคั่ว รสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบชาวปลัง 
สูตรเด็ดจากรายการ : แกงข้าวคั่วหัวปลี
<ul>
	<li>ซี่โครงหมู 150 กรัม</li>
	<li>หัวปลี 1 หัว</li>
	<li>ตะไคร้บุบ 1 ต้น</li>
	<li>พริกจินดาแดง 4 เม็ด</li>
	<li>กระเทียม 10 กลีบ</li>
	<li>ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ</li>
	<li>เกลือ 1/2 ช้อนชา</li>
	<li>น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา</li>
	<li>น้ำมันเล็กน้อย</li>
	<li>น้ำเปล่า</li>
</ul>วิธีทำ 
<ol>
	<li>นำหัวปลีลอกใบสีแดงด้านนอกออก จนได้หัวปลีอ่อนที่อยู่ข้างใน จากนั้นนำมาฝานเป็นชิ้น ๆ แล้วนำหัวปลีไปแช่น้ำผสมเกลือ ทิ้งไว้สักครู่ ตักหัวปลีขึ้นมาพักใส่สะเด็ดน้ำ</li>
	<li>นำพริก กระเทียม และเกลือ โขลกให้พอแหลก ตักใส่ถ้วยพักไว้</li>
	<li>ตั้งหม้อใส้น้ำมันเล็กน้อย ใส่เครื่องที่โขลกไว้และตะไคร้ ผัดให้เข้ากันจนเครื่องสุก ใส่น้ำเปล่า รอให้น้ำเดือด ใส่ซี่โครงหมู ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำตาลทราย จากนั้นใส่หัวปลี ต้มจนสุก ใส่ข้าวคั่วเป็นอย่างสุดท้าย</li>
</ol><img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/QV/c2/1QVc2Fkxm2fL-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
สูตรเด็ดจากรายการ : น้ำพริกหมูแดดเดียว
<ul>
	<li>เนื้อหมูแดดเดียวทอดฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ 4 - 5 ชิ้น</li>
	<li>พริกจินดาแดง 9 เม็ด</li>
	<li>กระเทียม 10 - 12 กลีบ</li>
	<li>มะเขือเทศผ่าครึ่ง 2 ลูก</li>
	<li>หอมแดง 2 หัว</li>
	<li>ตะไคร้ซอย 2 - 3 ต้น</li>
	<li>ผักชีไทยซอย 1 - 2 ช้อนโต๊ะ</li>
	<li>เกลือ 1/2 ช้อนชา</li>
</ul>วิธีทำ 
<ol>
	<li>ตั้งหม้อไฟกลางใส่น้ำเล็กน้อย พริก หอมแดง กระเทียม และมะเขือ รวนจนสุกนิ่ม </li>
	<li>นำเคื่องที่รวนใส่ครก ใส่ตะไคร้ซอย และเกลือ โขลกให้ละเอียด จากนั้นใส่หมูแดดเดียว แล้วโขลกให้เข้ากัน</li>
</ol>
<ol>
</ol><img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/QV/c2/1QVc2HX1YMCO-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
 ติดตามได้ในรายการกินอยู่คือ วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2566 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

กินแบบชาวปลัง

ไปเรียนรู้ภูมิปัญญาการหาปลาในแม่น้ำตาปี ด้วยวิธีการ "ลอยอวนแทงคลอง" ที่ ต.ทรัพย์ทวี อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นถิ่น "แกงส้มปลากดเหลือง กินคู่ปิ้งปลาเปรี้ยว" และเมนู "ทอดเครื่องปลาแขยง" ขั้นตอนและรสชาติจะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม<ul><li>เกร็ดน่ารู้</li></ul>"ลอยอวนแทงคลอง" เป็นภูมิปัญญาในการหาปลาพื้นบ้านของชาวบ้านในชุมชนที่อยู่ในเขตอำเภอบ้านนาเดิม และอำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำตาปี แม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่มีมานานกว่า 100 ปีมาแล้ว มีวิธีการโดยผู้ค้นหาจะยืนอยู่บนเรือ ทำการปล่อยให้เรือไหลไปตามกระแสน้ำ และถืออวนลอยตามน้ำ โดยอวนนั้นจะติดกับพื้นดินในแนวขวางกับลำคลอง และลากไปกับพื้นคลอง ซึ่งลักษณะที่อวนลากไปกับพื้นคลองเรียกว่าเป็นการแทงคลอง ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ลอยอวนแทงคลอง วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2566 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ลอยอวนแทงคลอง

พาทุกคนไปลุยสวนลงน้ำหาวัตถุดิบเด็ดที่ไม่ธรรมดา อย่าง เพกา, แม่เป้ง และปลาซิว กันที่บ้านหนองโกวิทย์ ต.เขาสามสิบ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว พร้อมกับกินอาหารพื้นบ้านแสนอร่อยจากฝีมือแม่ครัวชุมชนอารมณ์ดี อย่าง ขนมเปียกปูนใบเตย, เพกาย่างกินคู่กับซุบหน่อไม้, ลาบแม่เป้ง, หมกปลาซิวในกระบอกไม้ไผ่ ส่วนอาหารจานพิเศษในแบบฉบับ Foodwork จะนำปลาซิวมาทำเป็นอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า "ปลาซิวแพทอง" จะอร่อยเด็ดขนาดไหน ห้ามพลาด 
สูตรเด็ดจากรายการ : ซุบหน่อไม้
<ul>
	<li>น้ำใบย่านาง</li>
	<li>หน่อไม้ต้ม</li>
	<li>พริก</li>
	<li>หอมแดง</li>
	<li>ปลาร้า</li>
	<li>ข้าวคั่ว</li>
	<li>ต้นหอม</li>
	<li>ใบสาระแหน่</li>
	<li>ใบแมงลัก</li>
</ul>วิธีทำ ใส่น้ำใบย่านางในหม้อ ตามด้วยหน่อไม้ที่ต้มแล้ว ตำพริก หอมแดง ให้ละเอียด นำหน่อไม้ที่ต้มกับใบย่านางมาใส่ในครก ปรุงรสด้วยปลาร้า ข้าวคั่ว ต้นหอม ใบสาระแหน่ ใบแมงลัก คลุกทุกอย่างให้เข้ากัน<img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/QS/B0/1QSB0DFcrMQt-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
สูตรเด็ดจากรายการ : ปลาซิวแพทอง
<ul>
	<li>ปลาซิว</li>
	<li>พริกแกงเผ็ด</li>
	<li>กะทิ</li>
	<li>น้ำปูนใส</li>
	<li>เกลือ</li>
	<li>น้ำปลา</li>
	<li>ใบมะกรูดซอย</li>
	<li>ใบกะเพรา</li>
	<li>น้ำจิ้มไก่</li>
	<li>หอมแดง</li>
	<li>แตงกวา</li>
</ul>วิธีทำ ผสมแป้งชุบทอด พริกแกง กะทิ น้ำปูนใส คนทุกอย่างให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา ใส่ปลาซิว พร้อมกับใบมะกรูดซอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่พิมพ์แล้วนำไปทอดจนสุก พร้อมกับทอดใบกะเพราะกินเคียง และน้ำจิ้มไก่ที่เพิ่มแตงกวาและหอมแดงลงไป
<img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/QS/B0/1QSB0Ec0ig65-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
สูตรเด็ดจากรายการ : ลาบแม่เป้ง
<ul>
	<li>แม่เป้ง</li>
	<li>ข้าวคั่ว</li>
	<li>น้ำปลา</li>
	<li>พริกป่น</li>
	<li>ผักชีใบเลื่อย</li>
	<li>ต้นหอม</li>
</ul>วิธีทำ นำแม่เป้งไปคั่วในกระทะให้สุก เมื่อสุกแล้วรอให้เย็น ปรุงรสด้วยน้ำปลา ข้าวคั่ว พริกป่น ใส่ผักชีใบเลื่อย ต้นหอม คลุกทุกอย่างให้เข้ากัน
<img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/QS/B0/1QSB0F6mKkMq-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
สูตรเด็ดจากรายการ : หมกปลาซิวในกระบอกไม้ไผ่ 
<ul>
	<li>ปลาซิว</li>
	<li>พริกขี้หนู</li>
	<li>หอมแดง</li>
	<li>กระเทียม</li>
	<li>ตะไคร้</li>
	<li>ใบมะกรูด</li>
	<li>เกลือ</li>
	<li>น้ำปลาร้า</li>
	<li>ใบแมงลัก</li>
	<li>กระบอกไม้ไผ่</li>
</ul>วิธีทำ ตำพริกขี้หนู หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ต้นหอมผักชีซอย ใบมะกรูด เกลือ ตำทุกอย่างให้เข้ากันจนเป็นพริกแกง นำพริกแกงมาผสมกับปลาซิวที่ตัดหัว หาง ออกแล้ว ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า และใบแมงลัก ตักใส่กระบอกไม้ไผ่ ตามด้วยพริก นำไปนึ่ง 30 นาที
<img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/QS/B0/1QSB0GzH40we-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
ติดตามชมรายการ Foodwork วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม 2566 เวลา 17.05 - 17.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live"></a><a href="http://www.thaipbs.or.th/live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ปลาซิว แม่เป้ง เพกา วัตถุดิบเด็ดที่ไม่ธรรมดา

ออกตามหาผลไม้พื้นบ้านโบราณอย่าง "หมากเบน" กับพี่น้องไทกะเลิง ที่ ต.กุดบาก อ.กุดบาก จ.สกลนคร พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นถิ่น "เมี่ยงโบราณไทกะเลิง" และเมนู "ต้มเนื้อควายใส่หมากเปน กินคู่แจ่วเพี้ย" <ul><li>เกร็ดความรู้</li></ul>"หมากเบน" หรือพี่น้องชาติพันธุ์ไทกะเลิง เรียกว่า หมากเปน หรือตะขบป่า เป็นผลไม้พื้นบ้านโบราณ รับประทานได้ทั้งระยะดิบ ห่าม และระยะสุก โดยนิยมรับประทานที่สุดเมื่อผลสุก ซี่งจะมีสีน้ำตาลดำ ให้รสชาติหวาน ชาวบ้านที่บ้านกุดแฮด นิยมนำผลหมากเบนไปประกอบในพิธี "บุญข้าวประดับดิน" เพื่อไหว้บรรพบุรุษอีกด้วยติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ขิงเหลือง วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2566 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

หมากเบน

พาไปรู้จักพืชสมุนไพรชนิดใหม่ของโลก นั่นคือ "ขิงเหลือง" ที่ ต.ท่าก้อน อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูสูตรเด็ด "อ่อมกบพบกระต่ายใหญ่" และเมนู "ลาบคั่วปลาตองขิงเหลือง" หน้าตาและรสชาติแต่ละเมนูจะออกมาเป็นอย่างไร ติดตามรับชมพร้อมกัน<ul><li>เกร็ดน่ารู้</li></ul>"ขิงเหลือง" หรือชื่อสามัญคือ "ขิงกระต่ายใหญ่" พืชที่พบได้ในป่า และเป็นพืชชนิดใหม่ของโลกที่ค้นพบจากประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2557 โดยส่วนของดอกมีสีเหลือง สามารถนำช่อดอกอ่อนมารับประทานเป็นผักแนม หรือ ลวกจิ้มน้ำพริก ช่วยขับลมเวลาท้องอืดท้องเฟ้อ และเป็นไม้ประดับได้อีกด้วย ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ขิงเหลือง วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2566 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ขิงเหลือง

ช่วงสูงวัยไอดอล : พบกับเรื่องราวของลุงภาพวัย 60 ปี ที่ตอนนี้อาศัยอยู่คนเดียวเนื่องจากลูกและภรรยาได้ย้ายมาอยู่ในกทม.กันหมด ลูกเคยชวนลุงไปอยู่ด้วยกันและลุงภาพก็ยืนยันที่จะอยู่คนเดียว เพราะยังห่วงและรักในอาชีพช่างซ่อมเรือไม้ ลุงภาพสูงวัยที่ยังยึดอาชีพซ่อมเรือไว้ แม้ทุกวันนี้ลูกค้าจะมาซ่อมเรือน้อยลง ลุงภาพก็ยังยืนหยัดทำอาชีพนี้ด้วยใจรักและยังอยากพบเจอกับลูกค้า นอกจากเป็นช่างซ่อมเรือแล้วลุงภาพยังมีอีกหนึ่งอาชีพคืออาชีพช่างตัดผมชาย และรับตัดผมให้กับผู้ป่วยติดเตียง และคนพิการ ทั้ง 2 อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ลุงภาพเริ่มทำมาพร้อมกันให้ความรักเท่า ๆ กัน ทำให้ทุกวันนี้ลุงภาพก็ยังทำอาชีพนี้อยู่ช่วงสำรับตำรับยาย : พบกับเมนูอาหารพื้นบ้านปรางค์นครแห่งจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้นำถั่วดำมาประกอบอาหารนั่นคือ "ขาหมูถั่วดำ" เนื่องจากว่า
ชาวบ้านมีอาชีพเกษตรกรจึงนำผลผลิตที่ได้มาทำเป็นอาหาร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือถั่วดำแต่ถั่วดำที่จะนำมาประกอบอาหารได้
ต้องเป็นถั่วปีเพราะจะแก่และมีรสชาติที่อร่อยเมื่อนำมาต้มใส่ขาหมู จะทำให้สีสันและรสชาติกลมกล่อมลงตัวกันพอดี
ชาวบ้านจึงถ่ายทอดให้ลูกหลานในชุมชนสืบต่อมาจนถึงปัจจุบันติดตามชมได้ในรายการลุยไม่รู้โรย ลุยไปด้วยกัน วันเสาร์ที่ 23 กันยายน 2566 เวลา 06.05 - 06.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ลุยไม่รู้โรย

ลุงภาพนักซ่อมเรือไม้แห่งสมุทรสาคร

ช่วงสูงวัยไอดอล : เรื่องราวของลุงเปีย อายุ 65 ปี เป็นครูช่างทำเรือฉลอมจิ๋วในจังหวัดหัวหิน อดีตเคยทำงานเป็นพนักงานธนาคารมา 20 ปี ลุงเปียออกจากงานประจำเพราะโดน
Early นั่นจึงทำให้ลุงเปียลองหางานทำเพื่อสร้างรายได้ จนได้มาพบกับเรือประดิษฐ์ของคุณตามุ้ย ทำให้ลุงเปียได้ลองมาทำเรือจิ๋วโดยเริ่มจากการเลียนแบบและศึกษาโดยการอ่านหนังสือ สมัยก่อนลุงเปียไม่มีความรู้เรื่องไม้ เรื่องการประกอบเรือ เรื่องการออกแบบอะไรเลย แต่ด้วยความพยายามฝึกฝนและตั้งใจทำเรือจิ๋ว ทำให้ลุงเปียทำได้เก่งจนถึงทุกวันนี้ และทำอาชีพนี้มานานกว่า 30 ปี จนตอนกลายเป็นครูช่างทำเรือฉลอมจิ๋วในหัวหิน และตอนนี้ชิ้นงานของลุงเปียกลายเป็นหัตถกรรมอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ของอำเภอหัวหิน อีกทั้งยังเป็นคนที่ทำเรือฉลอมจิ่วคนสุดท้ายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ช่วงสำรับตำรับยาย : จะพาไปรูจักอาหารพื้นบ้านที่เป็นเอกลัษณ์ของชาวโคราชนั่นก็คือ “ข้าวแผะ” หรือ “เข่าแพะ” นั้นเอง 
แต่ในปัจจุบันได้มีการจางหายไปตามยุคสมัย หน้าตาของเมนูนี้จะเป็นลักษณะคล้ายข้าวต้มทรงเครื่อง
และแกงป่าใส่น้ำกะทิ ซึ่งความอร่อยก็อยู่ที่ความหวานธรรมชาติของผักแต่ละชนิดที่รวมอยู่ในหม้อเดียว 
การทำข้าวแผะก็มีหลายสูตรต่างกันตามพื้นที่ ติดตามชมได้ในรายการลุยไม่รู้โรย ลุยไปด้วยกัน วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 เวลา 06.05 - 06.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ครูช่างทำเรือฉลอมจิ๋วคนสุดท้ายของหัวหิน

ชวนขึ้นเขาเข้าไปตามหาผลไม้ป่าหายากอย่าง "มะแฟน" กับพี่น้องกะเหรี่ยงโปว์ ที่ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นถิ่น "ตำมะแฟนกินคู่ไก่ย่างหมูร้า" และเมนู "แกงเครื่องเปรี้ยวมะแฟน" กระบวนการและหน้าตาแต่ละเมนูจะออกมาเป็นอย่างไร<ul><li>เกร็ดน่ารู้</li></ul>"มะแฟน" เป็นผลไม้ป่า หายาก รับประทานได้ทั้งผลและยอดอ่อน มีลักษณะเป็นไม้ยืนต้น พบขึ้นตามป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น พี่น้องกะเหรี่ยงโปว์ในพื้นที่ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี นิยมกินของผลดิบและผลสุก โดยส่วนของผลดิบมีสีเขียว ให้รสชาติเปรี้ยว นิยมนำมาจิ้มพริกเกลือ หรือใส่ในส้มตำ ส่วนของผลสุกมีสีแดง ให้รสชาติหวานนิยมกินผลสดเป็นผลไม้ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน มะแฟน วันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2566 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

มะแฟน

<h2>รายการทุกทิศทั่วไทย ประจำวันที่ 4 ก.ย. 66</h2> <ul><li>ชาว จ.นครปฐม ดีกรีปริญญาโท ปรับพื้นที่บ้านปลูกผักพื้นบ้านเก็บเมล็ดพันธุ์ขาย ก่อนขยายกิจการสร้างเครือข่ายเพื่อขายออนไลน์</li><li>โรงเรียนวัดควนศรีนวล จ.ตรัง ประดิษฐ์เครื่องดนตรีขวดแก้ว ใช้เล่นร่วมกับเครื่องดนตรีสากลได้ทุกประเภท</li><li>ตามไปชมวิถีชีวิตชาวมอแกน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เข้าป่าสน เก็บเห็ดสนป่าไปทำอาหารพื้นบ้าน</li></ul> ติดตามชมได้ในรายการทุกทิศทั่วไทย ออกอากาศทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 15.30 - 16.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live"></a><a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ทุกทิศทั่วไทย

คนรุ่นใหม่เพาะเมล็ดพันธุ์ขายออนไลน์ จ.นครปฐม

ช่วงสูงวัยไอดอล : พบกับเรื่องราวของป้าแต๋ว วัย 70 ปี คนที่อาศัยในบนแพคนเดียว ซึ่งป้าแต๋วจะมีแพของตัวเองถึง 3 หลัง มีแพนอน แพย่างปลา แพขายของ เมื่อ 6 ปีก่อนป้าแต๋วอยู่บนแพกับสามีที่ป่วยติดเตียงที่ป้าแต๋วดูแลตลอด แต่เมื่อปี 60 สามีป้าแต๋วก็เสียชีวิตไป ป้าเลยต้องอยู่บนแพคนเดียว ป้าแต๋วใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุด เมื่อตอนปี 66 ป้าแต๋วตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งลำไส้ต้องรักษาตัวอยู่นาน และใช้ชีวิตบนแพอย่างปล่อยวางไม่คิดมาก ทุกวันนี้ชีวิตป้าแต๋วก็มีความสุขดีช่วงสำรับตำรับยาย : จะพาไปพบกับอาหารอร่อยนั้นคือ "ปลาดู" คือปลาหมักที่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี นั่นคือเมนู ปลาดูสมุนไพร เป็นอาหารพื้นบ้านชาวไทยพวน อำเภอปากพลี ช่วงสำรับตำรับยาย : ทำจากปลาดุก นำไปหมักด้วย เกลือ ข้าวคั่ว กระเทียม พริกไทย จนมีรสเปรี้ยว และเค็ม กลมกล่อม นิยมนำไป ทอด หรือย่าง ก่อนจะกิน ปัจจุบันมีครูหลอดเป็นสืบสานการทำปลาดูและเป็นผู้ที่ประยุกต์ และคิดค้น ในการแปรรูป ปลาดู ให้เป็นอาหารแบบต่าง ๆ ให้มีรสชาติอร่อย โดยยังคงอนุรักษ์รสชาติต้นตำหรับของชาวไทยพวนไว้ติดตามชมได้ในรายการลุยไม่รู้โรย ลุยไปด้วยกัน วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม 2566 เวลา 06.05 - 06.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ป้าแต๋วกับความสุขบนแพ 3 หลัง

เรียนรู้เรื่องราวของไผ่ขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า "ไผ่ยักษ์" ที่ ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "หมูตุ๋นไผ่ยักษ์" และเมนูสูตรเด็ด "ไผ่ยักษ์พันลำ" รสชาติและหน้าตาแต่ละเมนูจะออกมาเป็นอย่างไร<ul><li>เกร็ดความรู้</li></ul>"ไผ่ยักษ์" เป็นไผ่ที่มีลักษณะโดดเด่นในเรื่องขนาดและความสูง ลำต้นสูงได้ถึง 20 - 40 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำไผ่ 20 - 30 ซม. ปล้องยาว 20 - 45 ซม. เป็นสายพันธุ์ที่ปลูกง่าย โตไว ส่วนของหน่อไม้สามารถนำไปปรุงเมนูอาหารได้ ส่วนของลำไผ่สามารถทำเป็นไม้โครงสร้าง ทำเฟอร์นิเจอร์ และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น หมอนไม้ไผ่รองคอติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ไผ่ยักษ์ วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2566 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ไผ่ยักษ์

พาไปรู้จักแมลงศัตรูพืชที่เป็นอาหารของมนุษย์ นั่นคือ "ตั๊กแตนปาทังกา" ที่ ต.นิคมลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูสูตรเด็ด "กุ้งลอยฟ้าปาทังกาคั่วสมุนไพร" และเมนู "เปาะเปี๊ยะตั๊กแตนปาทังกา" ขั้นตอนและหน้าตาแต่ละเมนูจะออกมาเป็นอย่างไร โปรดติดตาม!<ul><li>เกร็ดความรู้</li></ul>"ตั๊กแตนปาทังกา" เป็นแมลงศัตรูพืชที่เป็นอาหารของมนุษย์ได้ โดยสายพันธุ์โมจีนไข่ เป็นสายพันธุ์ที่โตไว เลี้ยงไว้เพียง 45 วัน สามารถส่งขายหรือนำมาประกอบอาหารได้แล้ว โดยเนื้อตั๊กแตนปาทังกาสายพันธุ์โมจีนไข่จะมีความนุ่ม เมื่อนำไปทอดแล้วมีความมัน กรอบ หอม คล้ายกับกุ้งแห้งทอดติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ตั๊กแตนปาทังกา วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม 2566 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ตั๊กแตนปาทังกา

บุกตะลุยเข้าป่าไปค้นหาและเรียนรู้เรื่องราวของ "เครืองูเห่า" ที่ตำบลวังหมี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นบ้าน "ผัดเผ็ดปลาไหลใส่เครืองูเห่า" และเมนู "อ่อมน้องวัวใส่เครืองูเห่า" กระบวนการและรสชาติแต่ละเมนูจะออกมาเป็นอย่างไร ห้ามพลาด<ul><li>เกร็ดความรู้</li></ul>"เครืองูเห่า" เป็นไม้เถาเลื้อย โดยส่วนของใบอ่อน ให้รสชาติเผ็ดร้อน มัน ฝาด ชาที่ลิ้น ให้กลิ่นหอมคล้ายผิวมะกรูด หรือคล้ายกลิ่นการบูร หรือตะไคร้ สรรพคุณจากเครืองูเห่า ได้แก่ บำรุงธาตุ แก้ปวดเมื่อยเส้นเอ็น ส่วนของใบและผล รับประทานสด ๆ แก้อาการปวดท้องได้อีกด้วยติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน เครืองูเห่า วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

เครืองูเห่า

พาเข้าสวนชวนไปรู้จักกับส้มโบราณอย่าง "ส้มกา" ที่ ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูสูตรเด็ด "ส้มกาคลุกคะมำ" และเมนู "ต้มซู่ซ่าส้มกาปลาทู" หน้าตาและรสชาติแต่ละเมนูจะออกมาเป็นอย่างไร ห้ามพลาด<ul><li>เกร็ดความรู้</li></ul>"ส้มกา" หรือ ส้มตรา เป็นส้มสายพันธุ์หนึ่งของส้มเช้ง มีลักษณะเด่น คือ มีผิวเปลือกสีเขียวอมเหลือง ผิวขรุขระ มีสาแหรก หรือมีลายริ้วบนผล และมีตราวงกลมที่ปลายผล นิยมกินระยะผลแก่ โดยจะนำมาวางไว้ให้ลืมต้น 3-5 วัน ส้มกาจะให้รสชาติหวานฉ่ำ เป็นส้มที่นิยมนำหากันในช่วงเทศกาลตรุษจีน ชาวจีนนิยมใช้ในพิธีไหว้บรรพบุรุษติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ส้มกา วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2566 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง "อาหารพื้นบ้าน"