ตัวแทนพันธมิตรฯ - นปช.หารือนิรโทษกรรม

ประธานสภาผู้แทนราษฎร มองบรรยากาศการเมืองขณะนี้ดีขึ้น ส่วนการออกกฏหมายนิรโทษกรรมนั้น ขึ้นอยู่กับสมาชิกรัฐสภา ขณะที่แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ยอมรับถึงการหารือกับแกนนำกลุ่ม นปช. ถึงแนวทางการออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมทางการเมือง

นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เชิญตัวแทนภาคการเมือง รวมทั้งแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ร่วมหารือแนวทางการออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม เบื้องต้นที่ประชุมมีข้อสรุปต้องการแบ่งกฏหมายนิรโทษกรรมเป็นสองฉบับ โดยเป็นการนิรโทษกรรมให้กับผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ทำผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ อีกฉบับจะเป็นการนิรโทษกรรมกับผู้ยุยงปลุกปั่นให้มีการชุมนุม

ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุถึงการหารือว่า เป็นลักษณะพูดคุยเพื่อรับฟังความเห็นและขจัดความขัดแย้งนอกสภาต่อแนวความคิดการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยเบื้องต้นเห็นด้วยกับหลักการนิรโทษกรรมให้กับผู้ชุมนุม แต่บุคคลที่เข้าข่ายจะได้รับการนิรโทษกรรมต้องยอมรับผิดและเมื่อสำนึกผิดแล้วจะต้องทำสัญญาว่าจะไม่กระทำความผิดลักษณะเดิมซ้ำอีก ส่วนกรณีจะมีการออกกฏหมายนิรโทษกรรมให้กับแกนนำผู้ชุมนุมนั้น ที่ประชุมไม่ได้ลงรายละเอียดในเรื่องนี้ และ การออกฏหมายดังกล่าวจะยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น

ขณะที่นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เห็นด้วยกับการเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทางการเมือง ตามที่นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิธรรมแห่งชาติหรือ คอ.นธ. เสนอ เนื่องจากเชื่อว่า ประชาชนต้องการเห็นการเมืองของประเทศ เดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งหากสามารถปรองดองกัน หรือ หาจุดกึ่งกลางเกี่ยวกับเรื่องนิรโทษกรรม ได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ และจะส่งผลให้คดีในชั้นศาลลดลงไป

ส่วนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร มองว่า บรรยากาศทางการเมืองขณะนี้ดีขึ้น หลังจากทุกฝ่ายการเมือง หันหน้ามาพูดคุยกัน ส่วนร่างกฏหมายนิรโทษกรรมที่เสนอโดย คอ.นธ. ขึ้นอยู่กับสมาชิกรัฐสภาจะดำเนินการ โดยประธานสภาฯไม่มีหน้าที่ผลักดันในเรื่องนี้ โดยจะควบคุมการประชุมให้เป็นไปตามกรอบข้อบังคับ