ก.เกษตรฯ เตือนปชช.เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม
กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากหลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกชุกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น หลังเขื่อนหลายแห่งปริมาตรน้ำสูงเกินความจุแล้ว
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความจำเป็นในการระบายน้ำจากเขื่อนเกือบ 10 แห่ง หลังพบว่า มีปริมาตรน้ำเกินความจุ โดยภาคเหนือ ที่เขื่อนกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง มีปริมาตรน้ำ 101% ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีปริมาตรน้ำ 100% ส่วนเขื่อนลำพระเพลิงในอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา มีปริมาตรน้ำ 142%
ภาคกลาง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำ 114% ส่วนเขื่อนกระเสียว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี มีปริมาตรน้ำ 95%
ภาคตะวันออก เขื่อนหนองปลาไหล อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง มีปริมาตรน้ำ 95% ส่วนเขื่อนประแสร์ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง มีปริมาตรน้ำ 98%
นอกจากนี้ ล่าสุดเขื่อนจุฬาภรณ์ในอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ได้ออกประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่อำเภอคอนสาร อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอภูเขียว อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดขอนแก่น ให้เตรียมรับมือน้ำท่วมในพื้นที่ หลังฝนที่ตกหนักในพื้นที่อำเภอภูเขียวส่งผลให้ขณะนี้มีปริมาตรน้ำในเขื่อนถึง 188 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินปริมาตรกักเก็บ ทำให้ต้องระบายน้ำอย่างเร่งด่วน ซึ่งหลังจากนี้ น้ำที่ไหลลงสู่ลำน้ำพรม, ลำน้ำเซิญ จะไหลต่อไปยังจังหวัดขอนแก่น ภายใน 1-2 วันนี้
ขณะที่กรมทางหลวงประกาศเตือน 14 เส้นทางในจังหวัดนครสวรรค์ อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี และสระแก้ว ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำสูง รถไม่สามารถผ่านได้ และมีบางเส้นทางมีสภาพชำรุด จนไม่สามารถสัญจรผ่านได้เช่นกัน โดยประชาชนที่ต้องการสอบถามเส้นทาง หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง หมายเลข 1586, ตำรวจทางหลวง 1193, สำนักงานประชาสัมพันธ์ 02-354-6530, 02-354-6668-76 และศูนย์บริหารงานอุบัติภัย สำนักบริหารบำรุงทาง 02-354-6551
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางให้ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากยังคงมีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนภาคอื่นๆ ช่วง 2-3 วันนี้ ความกดอากาศสูงจากประเทศที่แผ่ปกคลุมตอนบนของประเทศ จะส่งผลให้ฝนเริ่มลดลง แต่พื้นที่ลุ่มใกล้ลำน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกยังคงต้องระมัดระวังน้ำล้นตลิ่งต่อไปอีก
ส่วน พายุไต้ฝุ่น "เมกี" บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนตัวผ่านเกาะลูซอน จากนั้นจะลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ ซึ่งพายุลูกมีผลกระทบทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนในช่วงวันที่ 23-24 ต.ค. นี้