นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ยังต้องดำเนินการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวอุทยานฯ สิมิลัน จ.พังงา ไม่เกินวันละ 3,000 คน เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยกับปีที่ผ่านๆ มา ที่ปล่อยให้นักท่องเที่ยวทะลักวันละ 6,000-7,000 คน จนแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้ประกอบการออกมาคัดค้านการจำกัดนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวสิมิลันครั้งนี้ โดยอ้างว่าส่งผลกระทบต่อธุรกิจเพราะปิดจองกรุ๊ปทัวร์ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งกรมอุทยานฯ ก็ไม่วิตกกังวลแต่อย่างใด เพราะหากยังปล่อยให้นักท่องเที่ยวเข้าไปแบบไม่จำกัด สุดท้ายแล้วอุทยานฯ สิมิลันคงต้องปิดยาวเหมือนอ่าวมาหยา หรืออุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติที่ถูกทำลายให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม
นายทรงธรรม กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากรมอุทยานฯ ได้ประชุมรับฟังความเห็นร่วมกับผู้ประกอบการกลุ่มนี้มาโดยตลอดมากกว่า 1 ปี ตั้งแต่มีเรื่องนักท่องเที่ยวล้นสิมิลันและจากการที่กรมอุทยานฯ ทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยได้ข้อสรุปร่วมกันในเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปในพื้นที่ คือนักท่องเที่ยวแบบไปกลับวันเดียว 3,325 คน แบบดำน้ำลึกวันละ 525 คน หรือบวกลบได้เล็กน้อยในปีแรก
นอกจากนี้ยังออกมาตรการต่างๆ ควบคุมเรือท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎกติกา ไม่ได้เพิ่งมาประกาศเพียงไม่กี่วันก่อนเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างที่เข้าใจ ทั้งนี้ในปีผ่านมามีนักท่องเที่ยวในอุทยานฯ สิมิลันมากถึง 910,000 คน เกินศักยภาพที่แหล่งท่องเที่ยวจะรองรับได้
สำหรับการเปิดฤดูการท่องเที่ยวทางทะเลของ จ.พังงา วันที่ 2 พบว่าบรรยากาศที่ท่าเทียบเรือบ้านน้ำเค็ม อ.ตะกั่วป่าและ ท่าเทียบเรือทับละมุ อ.ท้ายเหมือง ซึ่งเป็นจุดรับส่งที่ใกล้ที่สุดที่จะไปยังเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อ.คุระบุรี มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างบางตา เมื่อเทียบกับทุกปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันวันนี้ (16 ต.ค.) มีเพียงนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังหมู่เกาะสุรินทร์เท่านั้น เนื่องจากที่หมู่เกาะสิมิลัน ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างหยุดให้บริการนักท่องเที่ยว ภายหลังกรมอุทยานฯ ประกาศจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เรือ และห้ามพักค้างคืน
อ่านข่าวเพิ่มเติม