ผบ.ตร.เผยยึดรถผู้ขับขี่เมาแล้วขับ 3,046 คัน-ยันดำเนินมาตรการต่อทุกเทศกาล

อาชญากรรม
4 ม.ค. 59
12:52
90
Logo Thai PBS
ผบ.ตร.เผยยึดรถผู้ขับขี่เมาแล้วขับ 3,046 คัน-ยันดำเนินมาตรการต่อทุกเทศกาล
ผบ.ตร.เผยมาตรการยึดรถของผู้ขับขี่เมาแล้วขับในช่วงเทศกาลปีใหม่สามารถยึดรถได้ 3,046 คัน โดยจะดำเนินมาตรการนี้ไปทุกเทศกาล พร้อมขอบคุณตำรวจ ทหาร และทุกหน่วยงานที่ร่วมมืออำนวยความสะดวกประชาชนตามแหล่งท่องเที่ยว และการจราจรจนไม่มีสถานการณ์รุนแรง

วันนี้่ (4 ม.ค.2559) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขอบคุณตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกหน่วยที่ร่วมกับตำรวจในการอำนวยความสะดวกประชาชนทั้งตามสถานที่ท่องเที่ยว และการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา จนไม่มีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่สำคัญ สำหรับการจราจรในภาพรวมทั่วประเทศ พบว่ามีประชาชนเดินทางออกต่างจังหวัดประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งเพิ่มกว่าปีที่แล้วประมาณร้อยละ 33 ซึ่งสถิติอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากสาเหตุเมาแล้วขับลดลง เนื่องจากมีการประชาสัมพันธ์และตั้งด่านตรวจยึดรถยนต์ของผู้ขับขี่ที่เมาแล้วขับเพิ่มมากขึ้น โดยสาเหตุที่มีการจับกุมมากที่สุด คือไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ไม่สวมหมวกกันน็อค และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

สำหรับมาตรการยึดรถของผู้ขับขี่เมาแล้วขับสามารถยึดรถได้ 3,046 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ 2,477 คัน และรถยนต์ 569 คัน และเจ้าของรถสามารถมารับรถคืนได้ที่หน่วยที่ถูกยึดภายใน 7-15 วันหลังจากถูกยึดรถ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินมาตรการนี้ไปทุกเทศกาล เพราะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุได้จำนวนมาก

ขณะที่โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ มีประชาชนเข้าร่วมโครงการมากขึ้นกว่า 1,000 หลังคาเรือน และส่วนใหญ่กลับมาที่บ้านพักแล้ว ซึ่งทุกหลังเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุอาชญากรรม และในเทศกาลต่อไปพร้อมให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการอีก โดยมีกำลังตำรวจจากหลายหน่วยเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัย

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวถึงฉายาประจำปี 2558 ที่ถูกสื่อมวลชนตั้งให้ว่า "ผบ.เสียทรง" ว่า เสียความรู้สึก เนื่องจากการทำงานของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินั้น ต้องมอบหมายงานให้กับรองผู้บัญชาการ หรือผู้รับผิดชอบในเรื่องนั้นๆ และไม่ได้ทำงานน้อยไปกว่าตอนดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตลอดที่เข้ามาในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ไม่มีเหตุอาชญากรรมใหญ่เกิดขึ้น เนื่องจากมีการวางแผนในการป้องกันเหตุเป็นอย่างดี สื่อมวลชนที่ตั้งฉายาควรที่จะเปิดโอกาสให้ชี้แจงก่อนที่จะนำเสนอ เพื่อความเป็นธรรมกับบุคคลนั้นๆ และฉายาที่ตั้งให้เป็นไปในทางลักษณะที่ไม่ดี ซึ่งทำให้ผู้บังคับบัญชาตำหนิว่าไม่ได้ทำงานตามกับฉายานี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง