ในช่วงที่ 2 ของรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ผศ.รอยล จิตรดอน กรรมการบริหารจัดการน้ำ หรือ กบอ. นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน และ น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติชี้แจงการติดตามพายุโซนร้อนแกมี ซึ่งคาดการณ์ว่าเมื่อขึ้นฝั่งที่เวียดนามแล้ว พายุจะอ่อนกำลัง และสลายตัวเป็นดีเปรสชั่นที่ลาว ก่อนมีทิศทางเคลื่อนเข้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย แต่มีความเป็นห่วงขณะนี้ว่าแนวพายุจะวกลงไปที่อ่าวไทย จะส่งผลให้มีกำลังแรงขึ้น มีฝนตกหนักได้ในพื้นที่จันทบุรี ระยอง ชลบุรี และเมื่อแนวพายุพัดลงอ่าวไทยจะถูกดูดด้วยหย่อมความกดอากาศต่ำ จะทำให้พายุเร็วและแรงขึ้น โดยมีทิศทางเคลื่อนผ่านส่งผลต่อพื้นที่เพชรบุรี และราชบุรี ช่วงวันที่ 9-10 ตุลาคมนี้
ด้านการเตือนภัยขณะนี้อยู่ระดับการแจ้งข่าว ก่อนจะยกระดับสู่การเตือนเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่เปราะบาง รวมถึงพื้นที่อาจได้รับผลกระทบทางอ้อม และเมื่อพายุส่งผลกระทบแล้วก็จะมีการยกระดับการเตือนเฝ้าระวังจากทุก 24 ชั่วโมง เป็น 6 ชั่วโมง และทุก 3 ชั่วโมงตามลำดับ ขณะที่ภาพรวมสถานการณ์อ่างเก็บน้ำ และเขื่อนต่างๆ ยืนยันว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถรองรับน้ำใหม่ และพร้อมระบายได้โดยไม่กระทบกับพื้นที่ท้ายเขื่อน แต่การจัดการต้องพิจารณาตามรายอ่างเก็บน้ำ ซึ่งกรมชลประทานมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหา