นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้นำศิลปินดารานักแสดง และ แก้ว พงษ์ประยูร นักชกเหรียญเงินกีฬาโอลิมปิค มารณรงค์ติดเข็มกลัดสีขาว ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสื่อมวลชน ในโอกาสที่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี และมีมีกลุ่มตัวแทนคนพิการจากมูลนิธิพระมหาไถ่ เกือบ 20 คน มาถือป้ายและมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจรัฐบาล
ขณะที่ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมว.มหาดไทย แสดงความพร้อมในการชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และระบุว่า การบริหารจัดการที่ผ่านมา หากมีการทุจริตเกิดขึ้น ก็น่าจะเกิดจากฝ่ายปฏิบัติ มากกว่าที่จะเกิดจากฝ่ายบริหาร พร้อมคาดการณ์ประเด็นที่จะถูกอภิปรายน่าจะเป็นกรณีโครงการขุดลอกคูคลองและการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักร ซึ่งขณะนี้เตรียมข้อมูลชี้แจงแล้วร้อยละ 90
สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (20 พ.ย.) มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ยังคงปฏิบัติภารกิจร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 21 ที่ประเทศกัมพูชา และวาระสำคัญที่จะหารือพิจารณาร่วมกัน คือการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองขององค์การพิทักษ์สยาม และการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติของวุฒิสภา ซึ่งประสานขอเปิดอภิปรายวันที่ 23-24 พฤศจิกายนนี้ รวมถึงการเตรียมพร้อมด้านข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะมีขึ้นในวันที่ 25-28 พฤศจิกายนด้วย
นอกจากนั้นก็คาดการณ์ว่าที่ประชุม ครม. จะพิจารณาแต่งตั้งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่คาดว่าผู้จะมาดำรงตำแหน่งคือ นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว รองอธิบดีฯ คนปัจจุบัน ส่วนกระทรวงวัฒนธรรมเสนอชื่อ นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นปลัดกระทรวงวัฒนธรรมคนใหม่
ส่วนคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน นำโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ แถลงกรอบเวลาตามข้อตกลงกับวิปรัฐบาล คือการอภิปราย รวม 3 วัน และต้องลงมติภายในช่วงเช้าของวันที่ 28 พฤศจิกายน พร้อมกล่าวเรียกร้องการทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมของ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ต้องเป็นกลาง และเคร่งครัดในข้อบังคับ โดยเฉพาะกรณีที่รัฐมนตรีบางคนเตรียมชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี และกรณีที่ ส.ส.บางคนเตรียมประท้วงปกป้องทั้งนี้ด้วยข้อบังคับ ประธานวิปฝ่ายค้าน ยืนยันว่า การอภิปรายสามารถพาดพิงบุคคลนอกสภาผู้แทนราษฎรได้ หากเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกรณีปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล