ผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยยืนยันคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

การชุมนุมคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เป็นวันที่ 2 ที่แกนนำประกาศใช้มาตรการที่เรียกว่า อารยะขัดขืน 4 มาตรการ โดยเฉพาะการนัดหยุดงานพร้อมกัน ซึ่งแกนนำยังเชื่อว่าแม้จนถึงขณะนี้จะยังไม่ได้รับการตอบรับจากภาคธุรกิจเอกชนมากนัก แต่จะเห็นผลชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ย.) ซึ่งเป็นศุกร์ก่อนวันหยุด ก่อนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำหลักจะแถลงมาตรการกดดันรัฐบาลขั้นต่อไปในวันพรุ่งนี้

 

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกการชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมย้ำจุดยืน 3 ข้อในการชุมนุม คือพยายามอธิบายว่าการชุมนุม ณ ขณะนี้ เป็นการชุมนุมที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์อีกต่อไป หลังแกนนำ 9 คนลาออกจากการเป็น ส.ส.ไปแล้ว ย้ำจุดยืนในการใช้มาตรการอารยะขัดขืนต่อไป เพราะเชื่อว่าเป็นแนวทางสันติวิธีที่จะไม่ทำให้เกิดการสูญเสีย แม้จะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะเป็นเรื่องใหม่ของสังคมไทยก็ตาม และย้ำว่าการชุมนุมยังมีจุดยืนหลัก คือการทำให้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หายไปจากสารบบของสภา และจะสามารถทำได้สำเร็จภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยเห็นว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องแก้ปัญหา แม้จะยอมรับว่ากระบวนการที่จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายนั้นผ่านไปแล้ว หลังวุฒิสภาไม่รับหลักการร่างกฎหมายนิรโทษกรรม

 

ส่วนกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท.เริ่มมีการเคลื่อนไหวในประเด็นใหม่อย่างเห็นได้ชัด โดยเคลื่อนขบวนจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ไปรณรงค์ให้ประชาชนที่ถนนสีลมร่วมกันคัดค้านการทูลเกล้าทูลกระหม่อมร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่ คปท.ระบุว่าจะทำให้คณะรัฐมนตรีมีอำนาจตัดสินใจลงนามในการทำสัญญาระหว่างประเทศในหลายรูปแบบ ซึ่งอาจทำให้ไม่ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะไม่ต้องผ่านการกลั่นกรองจากรัฐสภาตามมาตรา 190 เดิม และอาจจะทำให้เปิดช่องให้มีการใช้อำนาจลงนามสัญญาระหว่างประเทศโดยมิชอบได้ กลุ่ม คปท.ยังเคลื่อนขบวนไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อปราศรัยเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือขอให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ลาออก โดยกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมการปฏิบัติหน้าที่ที่สนองตอบต่อรัฐบาลในหลายประเด็น

 

สำหรับจุดที่น่าสนใจของการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอยู่ที่วันพรุ่งนี้ ซึ่งทางแกนนำยืนยันว่าจะมีมวลชนหลั่งไหลเข้ามาที่นี่อย่างต่อเนื่อง และจะมีการประกาศมาตรการกดดันรัฐบาลเพิ่มขึ้นในคืนวันพรุ่งนี้