กองทัพภาคที่ 4 สั่งควบคุมสารตั้งต้นผลิตระเบิด-ยานพาหนะ ป้องกันเหตุช่วงรอมฎอน

ภูมิภาค
21 มิ.ย. 59
10:23
151
Logo Thai PBS
กองทัพภาคที่ 4 สั่งควบคุมสารตั้งต้นผลิตระเบิด-ยานพาหนะ ป้องกันเหตุช่วงรอมฎอน
กองทัพภาคที่ 4 สั่งควบคุมสารตั้งต้นผลิตระเบิดและกำหนดมาตราการควบคุมยานพาหนะ โดยเฉพาะการขึ้นทะเบียนอู่ซ่อมรถ ร้านจำหน่ายรถมือ 2 เพื่อป้องกันรถเป้าหมาย 39 คันที่ต้องเฝ้าระวังอาจถูกนำมาทำคาร์บอมบ์ ช่วง 10 วันสุดท้ายในเดือนถือศีลอดที่มักเกิดเหตุรนแรงขึ้นทุกปี

วันนี้ ( 21 มิ.ย.2559 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจความมั่นคงใน จ.ยะลา เพิ่มความเข้มงวดการตรวจสอบรถยนต์และจักรยานยนต์ ต้องสงสัยที่อาจประกอบวัตถุระเบิด เข้ามาก่อเหตุรุนแรงในชุมชนเมืองยะลา หลังมีการแจ้งเตือนให้ระวังการนำรถยนต์และจักรยานยนต์ มาก่อเหตุร้ายในเขตเมืองช่วง 10 วันสุดท้ายของการถือศีลอด หรือ เดือนรอมฏอน โดยให้เน้นเฝ้าระวังรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทนตัน สีบรอนซ์ ที่ถูกดัดแปลงสีจากสีขาว เป็นสีบรอนซ์เงิน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดงเทา ทะเบียน ขตร 238 นราธิวาส ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุได้ยิง นางเบญจวรรณ ซุ่นสกุล ชาว อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เสียชีวิต ก่อนนำรถจักรยานยนต์หลบหนี ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ศูนย์สารสนเทศ กองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า พบรถยนต์ที่เป็นยานพาหนะเป้าหมายต้องเฝ้าระวังขณะนี้ แบ่งเป็นจังหวัดนราธิวาส จำนวน 17 คัน จังหวัดปัตตานี จำนวน 14 คัน และจังหวัดยะลาจำนวน 8 คัน โดยข้อมูลของรถยนต์ที่ต้องเฝ้าระวังจำนวน 39 คัน ถูกส่งต่อมายังด่านตรวจต่างๆ ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบ โดยเฉพาะรถยนต์ที่มีความผิดปกติ เช่น รถมีร่องรอยการงัดแงะ มีการดัดแปลงพ่นสีใหม่ มีป้ายทะเบียนที่ไม่ตรงกับที่แจ้งกับกรมการขนส่งทางบก หรือผู้ขับขี่มีพฤติกรรมผิดปกติ

นอกจากนี้ยังมีมาตรการควบคุมยานพาหนะ โดยเฉพาะการขึ้นทะเบียนบุคคลหรือผู้ที่มีพฤติกรรมลักรถ ตรวจสอบตัวแทนจำหน่ายรถผิดกฎหมาย ติดตามพฤติกรรมนักแยกชิ้นส่วนและชำแหละ การขึ้นทะเบียนอู่ซ่อมรถ และร้านจำหน่ายรถมือ 2 ทั้งนี้ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เผยว่าปัจจุบันมีอู่ซ่อมรถในพื้นที่ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 120 ร้าน ร้านจำหน่ายอะไหล่มือสอง 24 ร้าน ร้านรับซื้อของเก่า 23 ร้าน และเต้นท์รถจำหน่ายรถยนต์มือสอง 944 ร้าน แต่ยังพบบางส่วนไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน กองทัพภาคที่ 4 จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ระดับพื้นที่ติดตามอย่างใกล้ชิด

นอกจากมาตรการควบคุมยานพาหนะแล้ว เจ้าหน้าที่ยังได้กำหนดมาตรการควบคุมสารตั้งต้นในการผลิตระเบิด โดยเฉพาะการขึ้นทะเบียนสถานประกอบการที่ใช้สารประเภทดังกล่าว การจำกัดจำนวน หรือพื้นที่ในการจัดเก็บ เพื่อควบคุมการนำมาประกอบระเบิด รวมถึงการเพิ่มความเข้มข้นด้านการข่าว เพื่อป้องกันเหตุระเบิดในรถยนต์ ที่จะสร้างความเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะก่อน 10 วันสุดท้ายของเดือนถือศีลอด ซึ่งมักเกิดเหตุรุนแรงมากขึ้นทุกปี

ขณะที่วันนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงร่วมลาดตระเวนบริเวณย่านการค้ากลางเมืองหาดใหญ่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ในช่วง 10 วันสุดท้ายเดือนถือศีลอดเช่นกันรวมทั้งด่านตรวจความมั่นคงในพื้นที่เมืองเศรษฐกิจคือ อ.เมือง อ.หาดใหญ่ และอ.สะเดา ที่จะมีการปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้น รถจักรยานยนต์และรถยนต์ต้องสงสัยอย่างละเอียด


‪‎

ข่าวที่เกี่ยวข้อง