หลายประเทศยังเผชิญสภาพอากาศที่เลวร้าย
ใครจะเดินทางไปจีนช่วงนี้ต้องตรวจสอบสภาพอากาศกันให้ดี เพราะยังคงมีทั้งฝนตกหนักในพื้นที่ทางภาคเหนือ ขณะที่ภาคใต้อากาศกลับร้อนจัด สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนรายงานว่า สภาพอากาศจะเลวร้ายต่อไปอีกอย่างน้อย 2 วัน ล่าสุดในกรุงปักกิ่ง ยังคงมีฝนตกหนัก ซึ่งตกต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมาวัดปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยได้ถึง 33 มิลลิเมตร
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีน ยังคาดการณ์ว่า จะมีฝนตกหนักในอีกหลายพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งบริเวณลุ่มน้ำเสฉวน คาบสมุทรซานตง แม่น้ำฮวงโห และ แม่น้ำไฮวเหอ ขณะเดียวกันพื้นที่ทางภาคใต้ของจีนยังคงมีคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมส่งผลให้อากาศร้อนอบอ้าวจากอุณหภูมิที่พุ่งสูงระหว่าง 35-39 องศาเซลเซียส โดยสภาพอากาศจะร้อนอบอ้าวต่อไปอีกอย่างน้อย 2 วัน
ส่วนที่ประเทศรัสเซียเป็นอีกประเทศที่กำลังเผชิญสภาพอากาศที่ร้อนจัดโดยเฉพาะกรุงมอสโก อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 31.4 องศาเซลเซียส ร้อนสุดเป็นประวัติการณ์ ทำลายสถิติที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้เมื่อปี พ.ศ.2533 ซึ่งเป็นปีที่เกิดวิกฤตไฟป่า ทำให้กรุงมอสโคต้องเผชิญกับหมอกควันพิษ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ขณะที่นิวซีแลนด์ต้องเผชิญกับหิมะตกหนักโดยในกรุงเวลลิงตัน มีหิมะตกหนักที่สุดในรอบ 40 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากมวลอากาศเย็นจากขั้วโลกใต้ที่พัดปกคลุม ขณะที่เมืองไคร์สต์เชิร์ช ซึ้งเป็นพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ก็ได้รับความเสียหายจากหิมะตกและกระแสลมแรง ทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่น ชาวเมืองหลายร้อยครอบครัวไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ โรงเรียนและธุรกิจห้างร้านต้องปิดบริการ ถนนเปียกลื่นเพราะมีน้ำแข็งปกคลุม คาดว่าสภาพอากาศจะหนาวจัดต่อไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้
ส่วนแอฟริกาใต้ต้องเผชิญมวลอากาศหนาวที่เย็นจัดผิดปกติ ทำให้มีหิมะตกหนักในหลายพื้นที่จนต้องปิดการสัญจรบนเส้นทางหลวงสายหลักที่เชื่อมจังหวัดกัวเตงกับจังหวัดกวาซูลู-นาทาล เพราะพื้นผิวถนนถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสูง