ครั้งแรก! เก็บ DNA งาช้างของกลาง 1,312 ชิ้นขยายผลคดี

สิ่งแวดล้อม
12 มี.ค. 63
17:33
925
Logo Thai PBS
ครั้งแรก! เก็บ DNA งาช้างของกลาง 1,312 ชิ้นขยายผลคดี
กรมศุลกากร จับมือกรมอุทยานฯ และผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกา เก็บ "ดีเอ็นเอ" งาช้างแอฟริกาของกลาง จำนวน 1,312 ชิ้นที่ตรวจยึดได้จากประเทศคองโก และเคนยา ส่งตรวจในห้องปฏิบัติการที่วอชิงตัน เพื่อขยายผลทางคดี

วันนี้ (12 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกรมศุลากร ทำงานบูรณาการร่วมกับกรมอุทยาน แห่งาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย โดยมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการปราบปรามการกระทำผิดกฏหมายโดยใช้เทคนิควิธีการในการสืบสวน ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการค้างาช้างผิดกฎหมาย รวมถึงจับกุมกลุ่มขบวนการที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการลักลอบคงช้าง ซึ่งเป็นผลให้ตั้งแต่ปึงบประมาณ 2557 ถึงปัจจุบัน กรมศุลกากรมีผลการตรวจยีดงาข้าง จำนวน 46 คดี ปริมาณงาช้างของกลาง มากกว่า 5.5 ตันโดยเฉพาะในปี 2558 ได้มีการตรวจยึดงาช้างได้ทั้งสิ้น 5.176 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการตวจยึดมากที่สุดในประเทศไทย

ทั้งนี้ เพื่อสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในขบวนการลักลอบทั้งหมด จึงมีโครงการจัดเก็บดีเอ็นเองาช้างของกลาง เป็นครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อขยายผลดำเนินคดีคดีกับผู้เกี่ยวข้องในขบวนการลักลอบทั้งในและนอกประเทศ

ภาพ:กรมศุลกากร

ภาพ:กรมศุลกากร

ภาพ:กรมศุลกากร

เก็บดีเอ็นเองาช้าง  1,312 ชิ้นขยายผลคดี

สำหรับการดำเนินการจัดเก็บดีเอ็นเองาช้าง ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสืบสวนความมั่นคง
แห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งได้นำผู้เชี่ยวชาญ ดร.แชมมวล วาเชอร์ จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่ศุลกากร กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร และกรมอุทยานฯ จัดเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากงาช้างของกลางในคดีจากประเทศคองโกและเคนยา ระหว่างวันที่ 17-28 ก.พ.ที่ผ่านมา ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดยงาช้าง ที่ดำเนินการเก็บตัวอย่างในครั้งนี้ มีน้ำหนักกว่า 3.23 ตัน (510 ชิ้น) จากประเทศเคนยาและน้ำหนัก 2.25 ตัน (802 ชิ้น) จากประเทศคองโก ตัวอย่างเหล่านี้จะได้รับการตรวจวิเคราะห์ดีเอ็นเอ ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน โดย ดร.วาเชอร์ และทีมงาน เพื่อตรวจสอบว่ามีการเชื่อมโยงกับการตรวจยึดอื่นๆ หรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม ผลจากการปราบปรามขบวนการค้างาช้างอย่างเข้มข้นส่งผลให้ที่ ประเทศไทยหลุดจากการถูกขึ้นบัญชีดำการค้างาช้าง ในเวทีการประชุมมอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (ไซเตส)

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ไซเตส” ปลดไทยพ้นบัญชีดำค้างาช้างข้ามชาติ

ปิดศูนย์ปราบปรามการค้างาช้าง หลัง "ไซเตส" ปลดไทยพ้นบัญชีดำ

 

ภาพ:กรมศุลกากร

ภาพ:กรมศุลกากร

ภาพ:กรมศุลกากร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง