"เมาขับ" นำโด่ง 8,575 คดีในช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์

สังคม
18 เม.ย. 66
10:28
555
Logo Thai PBS
"เมาขับ" นำโด่ง 8,575 คดีในช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ปิดยอด 7 วันอันตรายสงกรานต์ 2566 พบคดีเมาขับ 8,575 คดี ผู้กระทำผิดที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติต้องคัดกรองแบบประเมินการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบมีความเสี่ยงสูงติดสุรา จะส่งเข้ารับการบำบัดรักษา

วันนี้ (18 เม.ย.2566) นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า วันที่ 17 เม.ย. เป็นวันสุดท้ายของการคุมเข้ม 7 วันอันตรายสงกรานต์ 2566 มีสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติทั้งสิ้น 1,910 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 1,870 คดี คิดเป็นร้อยละ 97.9 และคดีขับเสพ 40 คดี คิดเป็นร้อยละ 2.1

สำหรับยอดสะสม 7 วัน ตั้งวันที่ 11-17 เม.ย. มีจำนวน 8,869 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 8,575 คดี คิดเป็นร้อยละ 96.69 คดีขับรถประมาท 23 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.26 คดีขับซิ่ง 1 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.01 และคดีขับเสพ 270 คดี คิดเป็นร้อยละ 3.04

จังหวัดที่มีคดีขับรถในขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 530 คดี ร้อยเอ็ด 473 คดี และเชียงใหม่ 458 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมทั้ง 7 วันที่เข้าสู่ระบบงานคุมประพฤติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 มีจำนวน 7,141 คดี กับปี 2566 จำนวน 8,575 คดี พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรามีจำนวนเพิ่มขึ้น 1,434 คดี คิดเป็นร้อยละ 20.08

อธิบดีกรมคุมประพฤติ เน้นย้ำมาตรการคุมประพฤติกับผู้กระทำผิดที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติ ในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุราทุกคน จะต้องผ่านการคัดกรองแบบประเมินการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงในการติดสุรา จะส่งเข้ารับการบำบัดรักษา

ส่วนผู้กระทำผิดที่เสี่ยงต่อการกระทำผิดซ้ำ ต้องเข้ารับการแก้ไขฟื้นฟูแบบเข้มข้นในรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นระยะเวลา 3 วันต่อเนื่อง และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมความประพฤติ เช่น รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ และทำงานบริการสังคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง