กทม.เผยเปิดประตูระบายน้ำริมคลองมหาสวัสดิ์ 3 คลองแบบขั้นบันได
นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ชี้แจงความคืบหน้ากรณีข้อเรียกร้องของผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดนนทบุรี หลังการหารือกับกรมชลประทานนานกว่า 3 ชั่วโมง โดยบอกว่าจะทำตามข้อเรียกร้อง 4 ข้อได้แก่เร่งจัดการขุดลอกคูคลองและกำจัดวัชพืชที่กีดขวางทางระบายน้ำ โดยเริ่มที่คลองบางบัวทองก่อนและจะซ่อมแนวคันกั้นน้ำในจุดที่ชำรุดได้รับความเสียหาย รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 200 เครื่องให้แล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) เพื่อให้ทันภายในวันที่ 1 ธันวาคมตามที่ได้รับปากกับชาวบ้านไว้
ส่วนข้อเรียกร้องให้จังหวัดนนทบุรีเป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีพิเศษหรือจ่ายค่าเสียหายตามความเป็นจริงนั้น ทาง ศปภ.รับปากว่าจะนำไปพิจารณา ขณะที่การเปิดประตูระบายน้ำที่คลองมหาสวัสดิ์และประตูระบายน้ำคลองอื่นๆในฝั่งธนบุรีกว้าง 1 เมตรนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี บอกว่าได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแล้ว โดยยืนยันจะเปิดประตูระบายน้ำที่ 1 เมตร
แต่ผู้ประสบภัยจังหวัดนนทบุรีไม่เชื่อจึงส่งตัวแทน 20 คน ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับรองผู้ว่าราชจังหวัดนนทบุรี ที่ประตูระบายน้ำริมคลองมหาสวัสดิ์ 3 แห่ง ได้แก่ คลองควาย คลองขุนศรีบุรีรักษ์ และคลองโพธิ์ ซึ่งพบว่าเปิดที่ระดับ 75 เซนติเมตร ไม่ใช่ 1 เมตรตามข้อเรียกร้อง ทำให้ผู้ประสบอุทกภัยจะกลับไปหารือกันอีกครั้ง
ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงยืนยันถึงหนังสือที่ทำร่วมกับ ศปภ.เมื่อวานนี้ว่า กทม.พิจารณาเปิดบานประตูระบายน้ำริมคลองมหาสวัสดิ์ 3 คลองแบบขั้นบันได ที่ระดับ 75 เซนติเมตร ได้แก่ คลองขุนศรีบุรีรักษ์ คลองควายและคลองซอย โดยขอเวลาประเมินผลกระทบภายใน 24 ชั่วโมง ส่วนประตูระบายน้ำที่คลองทวีวัฒนายืนยันที่ความกว้าง 50 เซนติเมตร
ส่วนการเปิดประตูระบายน้ำที่คลองบางตลาด จังหวัดนนทบุรี เพื่อเร่งระบายน้ำลงเจ้าพระยานั้น ทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกว่ายังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคลองมีสภาพตื้นเขิน แม้กองทัพจะเร่งขุดลอกคูคลองแล้ว แต่ก็ไม่สามารถระบายน้ำได้ทันในปีนี้ ส่วนระดับน้ำในคลองรังสิตเริ่มลดลงอยู่ที่ 3.03 เมตร และหากระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งเมื่อใด น้ำในพื้นที่ดอนเมืองจะไหลลงคลองรังสิตตามธรรมชาติ เนื่องจากดอนเมืองเป็นพื้นที่ดอน
ขณะเดียวกันตัวแทนชาวดอนเมืองกว่า 30 คน หารือร่วมกับนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่สาธารณะภัยร้ายแรง โดยขอให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่คลองรังสิตเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำจากคลองเปรมประชากรลงคลองรังสิต รวมถึงเพิ่มเรือดันน้ำก่อนออกแม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วขึ้น ขณะเดียวกันได้รื้อแนวกระสอบทรายขนาดใหญ่ หรือ บิ๊กแบ็ก ถนนวิภาวดีรังสิตขาออกเพิ่มอีกอีก 8 เมตรถึงพื้นถนนเพื่อให้รถยนต์สามารถขับผ่านไปได้ ส่วนข้อเรียกร้องที่ให้รื้อบิ๊กแบ็กถนนวิภาวดีขาเข้านั้น นายอานนท์ ขอปรึกษา ศปภ.อีกครั้ง เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้น้ำท่วมสนามบินดอนเมืองเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่กระทรวงคมนาคมได้วางแนวกระสอบทรายยักษ์บิ๊กแบ็กตั้งแต่ใต้สะพานแก้วรังสิตจนถึงฟาร์มโชคชัยซึ่งมีระยะทางรวมเกือบ 2 กิโลเมตรให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้ามาเพิ่มบนถนนวิภาวดีรังสิต ทำให้ประธานชมรมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมจังหวัดปทุมธานี แสดงความไม่เห็นด้วย โดยจะนัดชุมนุมที่บริเวณสะพานแก้ว หน้าห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ในวันพรุ่งนี้