ก.ต่างประเทศ-หน่วยงานความมั่นคงมีมติเห็นชอบให้ "นาซ่า" ใช้สนามบินอู่ตะเภา เตรียมส่ง ครม. พิจารณาพรุ่งนี้

การเมือง
18 มิ.ย. 55
11:53
29
Logo Thai PBS
ก.ต่างประเทศ-หน่วยงานความมั่นคงมีมติเห็นชอบให้ "นาซ่า" ใช้สนามบินอู่ตะเภา เตรียมส่ง ครม. พิจารณาพรุ่งนี้

ที่ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง เห็นชอบในหลักการ ให้องค์การนาซ่า ใช้สนามบินอู่ตะเภาตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้ประสบภัยพิบัติ และสำรวจสภาพภูมิอากาศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา เตรียมเชิญกระทรวงการต่างประเทศมาชี้แจงเพื่อขอให้เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน หลังเกรงว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบความหวาดระแวงกับประเทศเพื่อนบ้าน

ภายหลังการหารือผู้นำเหล่าทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ต่อกรณีองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ นาซ่า ขอใช้สนามบินอู่ตะเภาปฏิบัติภารกิจ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุมหน่วยงานความมั่นคงเห็นชอบต่อหลักการที่องค์การนาซา จะสำรวจสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้จะจัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยร่วมสังเกตการณ์ด้วย เพื่อพิจารณาและฝึกอบรมการปฏิบัติงานร่วมกับหลายประเทศในลักษณะพหุภาคี และต้องทำรายละเอียดข้อตกลงการเข้ามาของแต่ละประเทศให้รับทราบ ซึ่งจะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้(18 มิ.ย.) โดยนายสุรพงษ์ ยืนยันว่าองค์การนาซาเป็นองค์กรทางวิชาการ คนละส่วนกับกองทัพสหรัฐ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงอย่างที่หลายฝ่ายกังวล

ขณะเดียวกันในการประชุมวุฒิสภา นายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ได้ขอหารือในเรื่องนี้ และเปิดเผยถึงการเชิญหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง โดยทางหน่วยงานมั่นคงยืนยันว่าไม่ใช่กิจการทางทหาร แต่เป็นเรื่องดาวเทียมเพื่อตรวจสอบอากาศ

แต่กรรมาธิการเห็นว่า แม้จะไม่ใช่กิจกรรมด้านทหาร แต่ดาวเทียมที่ใช้ตรวจสอบอากาศสามารถจับตาดูกิจการประเทศเพื่อนบ้านได้ และ อาจผนวกกับกิจการทางทหารแฝงด้วย ซึ่งประเด็นนี้ไม่มีหน่วยงานมั่นคงใดกล้ารับประกันว่า การอนุมัติของรัฐบาลไทย จะไม่ก่อความระแวงกับประเทศเพื่อนบ้าน

คณะกรรมาธิการจึงเตรียมเชิญกระทรวงการต่างประเทศมาชี้แจงเพื่อให้เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน และขอให้พิจารณาอย่างรอบด้าน เนื่องจากไม่ได้มีการนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมร่วมรัฐสภาตามกรอบรัฐธรรมนูญมาตรา 190


ข่าวที่เกี่ยวข้อง