การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือฟุตบอลยูโร 2012 รอบ 8 ทีมสุดท้ายคู่ที่ 2 ที่สนามพีจีอี อารีน่า ประเทศโปแลนด์ โดยเยอรมนีที่ถูกยกเป็นเต็ง 2 รองจากแชมป์เก่า สเปน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบแรก ซึ่งเยอรมนีอยู่ในกรุ๊ป ออฟ เดท แต่เป็นทีมเดียวจาก 16 ทีมที่ชนะรวดทั้ง 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม
สภาพทีม โยอาคิม เลิฟ ไม่มีปัญหาต้องหนักใจเพราะไม่มีนักเตะติดโทษแบน หรือได้รับบาดเจ็บเลย โดยในรายของ เมซุต โอซิล บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์ และ ลาส์ เบนเดอร์ ที่ไม่ได้ลงฝึกซ้อมเมื่อวันอังคารก็พร้อมที่จะลงสนามในเกมนี้ แต่ลาส์ เบนเดอร์ อาจต้องอยู่ที่ซุ้มม้านั่งตัวสำรองเพราะ เยโรม บัวเต็ง แบ็กขวาตัวจริงก็พ้นโทษแบนกลับมาพร้อมลงสนามเช่นกัน
เลิฟจะใช้ผู้เล่นตัวหลักจากรอบแบ่งกลุ่มลงสนามไม่ว่าจะเป็น ฟิลลิป ลาห์ม กัปตันทีม และคู่ปราการหลังที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในทัวร์นาเมนต์นี้ทั้งมัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ และ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ รวมถึงแผงกองกลางอย่าง โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, ลูคัส โพดอลสกี้ ในขณะที่มาริโอ โกเมซ ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตูนำเป็นดาวซัลโวร่วมก็จะลงเป็นกองหน้าตัวเป้า
ส่วนกรีซ ภายใต้การคุมทีมของ แฟร์นานโด ซานโตส ที่หวังสร้างเทพนิยายให้ได้เช่นเดียวกับปี 2004 ในรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายพวกเขาพลิกล็อกชนะรัสเซีย 1-0 ได้ผ่านเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มเอ นัดนี้นอกจากจะไม่มี อัฟราม ปาปาโดปูลอส กองหลังที่ได้รับบาดเจ็บยาว 6 เดือนตั้งแต่นัดเปิดสนามแล้ว กรีซจะยังขาด จอร์จอส คารากูนิส กัปตันทีมคนเก่งที่เป็นผู้ยิงประตูชัยชนะรัสเซีย โดยคารากูนิสติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 2 ใบในรอบแรก เช่นเดียวกับ โฮเซ โฮเลบาส แบ็กขวาก็ติดโทษแบนเช่นกัน
นัดนี้กรีซก็ยังคงต้องใช้วิธีตั้งรับเหนียวแน่น และโต้กลับ ซึ่งเป็นแท็กติกของพวกเขาจากรอบแบ่งกลุ่ม โดย แฟร์นานโด ซานโต๊ส ต้องหวังไปที่เกมสวนกลับที่มีนักเตะอย่าง ดิมิตริส ซัลปินกิดิส, จอร์จอส ซามาราส และ ธีโอฟานิส เกคัส สามประสานในแนวรุกของทีม
ในเกมระดับชาติเยอรมนีชนะมาแล้ว 14 นัดติดต่อกัน และพวกเขาก็มีสถิติในการพบกันกรีซที่ดีกว่า โดยพบกัน 8 ครั้ง เยอรมนีไม่เคยแพ้กรีซเลย และชนะถึง 5 นัด