ตรวจสอบโกดังจำนำข้าว มีเพียงพอหรือไม่
คำยืนยันของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ผ่านรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชนว่าโครงการรับจำนำข้าวไม่มีปัญหาเรื่องโกดังกลาง แม้ก่อนหน้านี้ที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเสนอให้ใช้พื้นที่กองทัพที่ยังมีโกดังว่างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ไปดูแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีที่เก็บ
ข้อมูลนี้อาจไม่สอดคล้องกับสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์ยืนยัน เพราะนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่าก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีสั่งให้ทุกกระทรวงตรวจสอบสถานที่ว่ามีที่ไหนเหมาะสมที่จะใช้รองรับผลผลิตข้าวซึ่งได้จากโครงการรับจำนำข้าวนาปรังได้บ้าง และตนเองได้เสนอให้ใช้คลังสินค้าอาคารคาร์โก้ 2 ของสนามบินดอนเมือง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อคส.ได้ประสานมายังการท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อขอไปสำรวจพื้นที่ในวันพรุ่งนี้
เพื่อดูความเหมาะสมในการใช้เป็นพื้นที่รองรับข้าวนาปีที่รับจำนำในฤดูกาลผลิต 2554/2555 ปริมาณไม่เกิน 1 ล้านตัน โดยคลังสินค้าดังกล่าวมีขนาดพื้นที่ 31,400 ตารางเมตร สูงประมาณ 14 เมตร โดย 1 ตารางเมตร รองรับได้ 5 ตัน คาดว่าจะรองรับข้าวเปลือกได้ประมาณ 157,000 ตัน
การยืนยันของกระทรวงพาณิชย์ยังขัดแย้งกับเจ้าของโรงสีบางรายที่ระบุว่า สิ่งที่รัฐบาลยืนยันนั้นไม่เป็นความจริง เพราะโรงสีหลายแห่งทั่วประเทศยังมีข้าวสาร และปลายข้าวที่ยังค้างส่งมอบจากโครงการรับจำนำข้าวนาปรังฤดูกาลผลิต 2554/2555 จำนวนมาก เช่น นนทบุรี เพชรบุรี นครปฐม ราชบุรี แม้ก่อนหน้าที่โรงสีบางแห่งได้ทยอยส่งมอบข้าวไปแล้วแต่ก็มีปริมาณไม่มาก
เนื่องจากโกดังกลางของรัฐทั้ง อตก.จำนวน 105 แห่ง และ อคส.กว่า 300 แห่งเต็มหมดแล้ว ขณะที่โกดังใหม่ของเอกชนที่สร้างใหม่ที่สร้างเพิ่มอีกเกือบ 100 แห่งก็ใช้เวลานานกว่าจะรองรับได้ ไม่ทันกับการรับจำนำข้าวรอบใหม่
และเห็นว่ารัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วนโดยการระบายข้าวในสต็อกซึ่งจะทำให้มีพื้นที่เหลือรองรับโครงการรับจำนำข้าวรอบใหม่ หรือการหาโกดังใหม่ที่ไม่ใช้งานเพิ่มขึ้น เช่นการใช้คลังสินค้าที่ดอนเมืองนั้นเห็นว่าสามารถทำได้ แต่ต้องปรับปรุงให้มีความเหมาะสมในการจัดเก็บข้าว เพราะหากทิ้งไว้นานจะทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ และขายไม่ได้ราคา
เจ้าของโรงสีบางแห่งระบุด้วยว่า แม้โกดังเอกชนบางแห่งจะว่างแต่ไม่สามารถนำข้าวไปฝากได้เพราะจะกันไว้สำหรับโรงสีในพื้นที่ ส่วนโกดังเอกชนที่ยังว่างอยู่ไม่สามารถใช้เป็นโกดังกลางเก็บข้าวได้ เพราะการเปิดโกดังแต่ละครั้ง จะต้องจ่ายเงินกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำหน้าที่เปิดโกดังกระสอบละ 2 บาท จึงจะอนุมัติให้เปิดได้
พร้อมระบุว่าด้วยว่าปัญหานี้ ทำให้นักการเมืองบางกลุ่มเข้าไปหาผลประโยชน์จากการนำข้าวฝากในโกดังกลาง โดยการจัดคิวโรงสีที่จะนำข้าวฝากในโกดังกลาง ทั้งการเรียกรับเงิน และการเข้าไปถือหุ้นลม
สำหรับการส่งมอบข้าวในปีที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งรัดให้โรงสีทุกแห่งเร่งส่งมอบข้าวที่ค้างให้หมดภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ แต่จากปัญหาโกดังกลางที่ไม่เพียงพออาจทำให้โรงสีอาจไม่สามารถส่งมอบข้าวตามกำหนดซึ่งกระทบกับการรับจำนำข้าวรอบใหม่ เพราะโรงสีไม่สามารถรับจำนำข้าวจากชาวนาได้เนื่องจากไม่มีสถานที่ในการกองข้าวเปลือกเมื่อสีแปรเป็นข้าวสารก็ไม่มีโกดังกลางเก็บ