น.ส.ณัฎฐา โกมลวาทิน ผู้ประกาศข่าว และบรรณาธิการข่าวอาเซียน ของไทยพีบีเอส ระบุว่า สังคมออนไลน์ในปัจจุบัน มีอิทธิพลกับคนในสังคมอย่างมาก เช่น กรณีที่คนในสังคมออนไลน์ มีการนัดแนะกันบนเฟสบุ๊ค เพื่อรวมตัวกันในการเรียกร้องให้ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นำละครเรื่องเหนือเมฆ 2 ให้กลับมาออกอากาศอีกครั้ง หลังจากที่ถูกถอดกลางอากาศ เมื่อสัปดาห์ก่อน
ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่ในไทยเท่านั้น ในประเทศจีนก็มีการชุมนุมเรียกร้อง หลังจากที่รัฐบาลจีนบล๊อกเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ขณะที่ประเทศอินเดียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประชาชนออกมาชุมนุมเรียกร้อง กรณีที่มีนักศึกษาหญิงถูกรุมข่มขืน ทำให้รัฐบาลของอินเดียได้เห็น และตระหนักถึงพลังมวลชนด้วยเช่นกัน
น.ส.ณัฎฐา ยังระบุอีกว่า การเสพข่าวในปัจจุบันไม่ใช่แค่นักข่าวส่งสารให้ประชาชนเท่านั้น แต่ประชาชนยังสามารถเผยแพร่ข่าวสารได้อีกด้วย โดยที่เป็นในรูปแบบนักข่าวพลเมือง ซึ่งยังไม่มีหน่วยงาน หรือองค์กรใด ออกมาควบคุม กำกับ ดูแล แต่ท้ายที่สุดแล้วการทำหน้าที่สื่อมวลชน หรือสื่อมวลชนอาชีพ ยังต้องมีการหาข้อมูล ลงพื้นที่ สัมภาษณ์แหล่งข่าว เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และรอบด้าน
ขณะที่นายภาวุธ พงษ์วิทยภานะ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ บริษัด TARAD.com กล่าวว่า มีการนำสังคมออนไลน์มาใช้ในการทำธูรกิจมากขึ้น เพราะมีความหลากหลาย และอำนาจในการบอกต่อ ทั้งนี้การทำธุรกิจบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ต้องมีการทำแบบมีจุดมุ่งหมาย เพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กว้างมากขึ้น ทั้งนี้ นายภาวุฒิยังระบุอีกว่า ปัจจุบันมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจของตนเองนั้นมีมากถึงร้อยละ 11 และเชื่อว่า อนาคตธุรกิจบนเครือข่ายสังคมออกไลน์ จะสามารถเติบโก และขยายตลาดไปได้อีกมากมาย
ด้าน น.ส. สฤนี อาชวานันทกุล เครือข่ายพลเมืองเน็ต (Thai Netizen Network) กล่าวว่า โลกสังคมออนไลน์ ทำให้โลกของเรากว้างขึ้น แต่อาจไม่ได้ทำให้โลกทัศน์ หรือใจกว้างขึ้นไปด้วย ซึ่งในปัจจุบันเครือข่ายสังคมออนไลน์ในไทย เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะเชื่อว่า เครือข่ายนี้สามารถตอบสนองความต้องการ อุปนิสัยของคนไทย และพฤติกรรมการรับข่าวสารที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่ หนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือโทรทัศน์ เหมือนสมัยก่อน แต่ปัจจุบันนี้การรับข้อมูลข่าวสารได้หลายทางพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น เฟสบุ๊ค หรือทวิตเตอร์ รวมถึงมีความรวดเร็ว แต่ในปัจจุบันยังไม่มีแนวทางในการควบคุม การใช้ และการรับข้อมูลข่าวสาร
ทั้งนี้ องค์กรอิเซนโอเวอร์ ฟอล์โล่ว์ชิพ อลัมนี่ เป็นองค์กรที่ตั้งอยู่ในนครฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีจุดประสงค์ในการพัฒนา และสร้างเครือข่ายของผู้นำรุ่นใหม่ จากทั่วโลก เดินทางไปยังสหรัฐฯ ประมาณ 6 สัปดาห์ เพื่อดูงาน พบปะ แลกเปลี่ยน ความเห็นกับผู้นำในด้านต่างๆ ตามแต่ที่สนใจตามกำหนดการที่ถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล เพื่อให้สามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศของตน และสร้างสันติภาพในโลกได้อย่างเต็มศักยภาพ