"ร.ฟ.ท."เร่งตรวจสอบเหตุรถไฟตกราง เพื่อความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์

จากเหตุการณ์รถไฟรถรางที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ทำให้เกิดคำถามตามมาถึงความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงที่ประชาชนจำนวนมาก เตรียมใช้เดินทางกลับภูมิลำเนา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นมาจากถูกขโมยน็อตยึดราง ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการซ่อมบำรุง

เหตุการณ์รถไฟขนส่งผู้โดยสารเส้นทางพิษณุโลก -กรุงเทพมหานคร ตกรางทั้ง 6 โบกี้ เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังออกจากสถานีหลักสี่ไม่นาน ซึ่งระหว่างเกิดเหตุมีผู้โดยสารประมาณ 400 คน บาดเจ็บ 3 คน นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศ หรือ รฟท.เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว แต่เบื้องต้นพบว่า จานเหล็กรองรางและตะปูตอกรองไม้หมอนบางส่วนถูกขโมยไป

ประกอบกับสภาพทางรถไฟเป็นรางเก่า และมีสภาพไม่สมบูรณ์จากที่เคยถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร นานกว่า 2 เดือน เมื่อปี 2554 ซึ่งการรถไฟฯ ได้แจ้งเตือนพนักงานขับรถที่ผ่านมาจุดนี้ ให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินรถเป็นพิเศษ พร้อมลดความเร็วเหลือ 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากปกติที่วิ่ง 80-100 กิโลเมตร

ขณะเดียวกัน สาเหตุที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับระดับอุณหภูมิความร้อนสูง เพราะจากการตรวจสอบไม่พบสภาพรางบิด หรือ ขยายตัว เหมือนกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถไฟบรรทุกน้ำมันเตา กว่า 30,000 ลิตร ตกรางในเส้นทางเดียวกัน เมื่อวันที่ 24 เม.ย.เมื่อปีที่แล้ว (55) ช่วงหน้าสนามบินดอนเมือง ซึ่งสาเหตุของรางขยายตัว ถือเป็นเรื่องปกติ และได้มีการเผื่อเรื่องการขยายตัวไว้แล้ว รวมทั้งหากจุดไหน เป็นจุดเสี่ยงเรื่องความร้อน ทางเจ้าหน้าที่จะนำน้ำมาชะโลมเหล็กที่รางรถไฟ

สำหรับการรองรับประชาชน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะนี้ เส้นทางเดินรถทั่วประเทศ อาจประสบปัญหาล่าช้ากว่าปกติ 3-7 ชั่วโมง เพราะมีการซ่อมบำรุงระยะทางประมาณ 300-400 กิโลเมตร โดยเฉพาะเส้นทางแยกออกไปทางจังหวัดอุบลราชธานี และหนองคาย ซึ่งจะแล้วเสร็จกลางปีนี้ (56)

ร.ฟ.ท.ยังอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างองค์กร โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีเร็วๆ นี้ ขอบุคลากรเพิ่มจำนวน 18,000 อัตรา เพราะปัจจุบัน มี 10,800 อัตรา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตำแหน่งเกี่ยวกับการเดินรถ